ตลท.ร่วมบลจ.ผุดแมชชิ่งฟันด์ 8.2 พันลบ.ซื้อหุ้นถูก พยุงราคาช่วงตลาดขาลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday August 24, 2008 10:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลท.อยู่ระหว่างจัดตั้งกองทุนร่วมกัน (แมชชิ่งฟันด์) 11-12 กอง มูลค่ารวม 8,250 ล้านบาท เพื่อลงทุนในตลาดหุ้น หลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้นักลงทุนระยะยาวเริ่มหาจังหวะเพื่อการลงทุน รวมทั้งบางส่วนรีรอเข้าลงทุน ตลท.จึงมองว่าเป็นจังหวะการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต ซึ่งได้เตรียมเงินสำหรับจัดตั้งกองทุน 2,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดย ตลท.ได้เปิดโอกาสให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนเสนอรายละเอียดภายใน 12 ก.ย.นี้ และคาดว่าเริ่มทยอยลงทุนในตลาดหุ้นได้ในเดือน ต.ค.นี้
สำหรับรูปแบบของกองทุนแบ่งเป็นกองทุนที่ร่วมลงทุนกับนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศมูลค่า 5,000 ล้านบาท ซึ่ง ตลท.จะนำเงินร่วมลงทุน 1,000 ล้านบาท และสถาบันลงทุน 4,000 ล้านบาท หรืออาจแบ่งย่อยออกเป็น 2 กอง ๆ ละ 2,500 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนที่เหลืออีก 3,250 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เสนอขายให้กับนักลงทุนรายย่อย แบ่งเป็น 10 กอง โดยในส่วนของ 5 กองแรก มูลค่ากองละ 400 ล้านบาท ตลท. จะร่วมลงทุนกองละ 100 ล้านบาท และนักลงทุนร่วมลงทุนกองละ 300 ล้านบาท เพื่อเน้นการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่อยู่ในการคำนวณของดัชนีฟุตซี่ ส่วนอีก 5 กอง มูลค่ากองละ 250 ล้านบาท ตลท.จะร่วมลงทุนกองละ 100 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยร่วมลงทุนกองละ 150 ล้านบาท เพื่อเน้นลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่มีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี
อย่างไรก็ตาม ตลท. อยากให้นักลงทุนสถาบันชักชวนกลุ่มนักลงทุนในแถบตะวันออกกลางเข้ามาร่วมลงทุนด้วย เนื่องจากมองว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและให้ความสนใจตลาดหุ้นไทยอยู่แล้ว อีกทั้งมีรูปแบบเหมือนกับกองทุนไทยสร้างโอกาส ซึ่งที่ผ่านมาจากการร่วมลงขันจัดตั้งกองทุนลักษณะดังกล่าว ตลท.ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นเฉลี่ยร้อยละ 24
“กองทุนทั้ง 11-12 กอง ถือว่าครอบคลุมการลงทุนในตลาดหุ้นทั้งหมด เนื่องจากมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ยกเว้นกองทุนแมชชิ่งฟันด์ในส่วนที่ร่วมกับสถาบันนั้น จะเลือกลงทุนในตลาดหุ้นได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก และอย่าเรียกว่าเป็นการพยุงหุ้นเลย แต่เพราะเราเห็นโอกาสการลงทุนมากกว่า อีกทั้งนักลงทุนสถาบันหลายแห่งก็เห็นโอกาสเหมือนกัน" นางภัทรียา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ