QHโรดโชว์ฮ่องกงส.ค.,ออกหุ้นกู้2.5พันลบ.ในก.ย.ใช้ซื้อที่-คืนหุ้นกู้เดิม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 26, 2008 10:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางสุวรรณา พุทธประสาท กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังมีแผนออกโรดโชว์ (Road Show) อย่างต่อเนื่องในทุกๆไตรมาส โดยในช่วงครึ่งปีแรก มีการออกโรดโชว์ไปแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะไปที่ฮ่องกงและสิงค์โปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลาง (Hub) ของการลงทุนในแถบเอเชีย นอกจากนี้ไปที่ประเทศแถบยุโรป อาทิ อังกฤษ สก็อตแลนด์ 
โดยจากการทำโรดโชว์ที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างดีมาก เนื่องจากบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของผลประกอบการเป็นไปตามแผนงานที่ได้ประกาศไว้ อีกทั้งมีอัตราผลกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง 15-20% ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องให้กับผู้ถือหุ้น จึงส่งผลให้นักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพขององค์กรและสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ
“สำหรับแผนการทำโรดโชว์ครั้งต่อไป บริษัทฯจะไปที่ฮ่องกงในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างเช่นเคย และมองว่าหากสถานการณ์ทางการเมืองในเมืองไทยมีเสถียรภาพที่ดีขึ้นก็จะส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและตัดสินใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศไทยมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน” นางสุวรรณากล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนการที่จะออกจำหน่ายหุ้นกู้จำนวน 2,500 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 3-4 ปี ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยจะนำเงินจากการขายหุ้นกู้ดังกล่าว ไปใช้ในการซื้อที่ดินใหม่ และชำระคืนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดในปีนี้ 1,500 ล้านบาท
โดยหุ้นกู้ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนเมษายน 2551 โดยมีอายุไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดเดิมของบริษัทฯ เป็นระดับ A- จากเดิม BBB+ พร้อมจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ของบริษัทฯที่ระดับ A- ที่แนวโน้ม “Stable” เพื่อแสดงถึงสถานะของภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าและบริษัทฯที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาดบ้านจัดสรรอีกด้วย
สำหรับแผนงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 4 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการของบริษัท คาซ่า วิลล์ จำกัด ภายใต้แบรนด์ “คาซ่าวิลล์" 2 โครงการ และ “คาซ่า ซิตี้" 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,140 ล้านบาท จากแผนรวมการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ 11 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 17,420 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าในสองไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 บริษัทฯจะมียอดรับรู้รายได้จากธุรกิจขายบ้านรวมกว่า 5,000 ล้านบาท
สำหรับรายได้ในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปี 2550 ประมาณ 20% แบ่งเป็นรายได้จากการขายบ้านเดี่ยวประมาณ 10,500 ล้านบาท และรายได้จากการให้เช่าอาคารสำนักงานและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ประมาณ 1,500 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ