แนวโน้มตลาดหุ้นภาคบ่าย โบรกเกอร์หลายสำนักมองสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่กระจายไปทั่ว ส่งผลกดดันดัชนีหุ้นไทย โดยให้แนวรับสำคัญที่ระดับ 660 จุด หากหลุดจากนี้ตลาดหุ้นไทยฟื้นยาก ทั้งนี้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดูว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่
นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน มองว่า ตลาดปรับตัวลงตามคาดหมาย โดยมองกรอบแนวรับไว้ที่ 660 จุด หลังจากเช้านี้ทะลุแนวรับ 665 จุดไปแล้ว ขณะเดียวกันนักลงทุนก็ชะลอการลงทุนออกไป รอดูสภาพตลาดในระยะนี้ก่อน
" คิดว่าปัจจัยการเมืองยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่พรุ่งนี้จะมีผลการประชุม กนง.ด้วย คาดว่ากนง.อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดระยะนี้แกว่งตัวในทางลง แต่ว่าจะยืน 660 ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯมีความรุนแรงหรือเปล่า แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นความรุนแรงอะไร"นางวิริยา กล่าว
ส่วนพรุ่งนี้ก็ต้องติดตามดูว่าจะหลุดระดับ 660 หรือไม่ ก็ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป
ขณะเดียวกัน การจัดต้งกองทุนแมตชิ่งฟันด์ ของตลาดหลักทรัพย์คงไม่ช่วยอะไร เพราะกว่าจะจัดตั้งก็เป็นในเดือน ต.ค. จึงแทบไม่มีผลต่อตลาดในระยะนี้
"แมตชิ่งฟันด์จะช่วยได้หรือ คือเหมือนอยู่ในภาวะน้ำกำลังไหลเชี่ยว การตั้งแมตชิ่งฟันด์คงทานไม่ได้"
ถ้าไม่เกิดเหตุการณุ์รุนแรง ตลาดก็อาจถอยไม่ลึกมากนัก แต่ถ้าเกิดความรุนแรงหรือปะทะ ก็จะส่งผลต่อจิตวิทยาตลาด
อย่างไรก็ตาม ตลาดก็น่าจะได้เห็นความชัดเจน แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นความชัดเจนทำให้ตลาดหลักทรัพย์ถอยตัวลง
ด้านน.ส.ปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าว่า แม้ตลาดปรับตัวลง แต่วอลุ่มการซื้อขายก็ไม่มากนัก ประมาณ 5 พันกว่าล้านบาท ส่วนจะมีแรงขายมากกว่านี้หรือไม่คงตอบยาก เพราะตามกระแสข่าวระบุว่า กลุ่มพันธมิตรฯจะมีการชุมนุมยืดเยื้อและปิดล้อมต่อไปอีก 3 วัน ซึ่งไม่ใช่เป็๋นผลดีต่อตลาดหุ้น
ในแง่ของนักลงทุนก็คงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน อย่าเพิ่งรีบผลีผลามเข้าไป อย่างไรก็ดี เริ่มเห็นนักลงทุนชะลอการลงทุนตั้งแต่วานนี้แล้ว ดูจากปริมาณการซื้อขาย ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อจริงก็จะยิ่งสร้างความกังวลให้นักลงทุน
"ถ้าดูในแง่ทางเทคนิค ดูที่ระดับต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้น ที่ 660 ตนก็คงจะดูว่ายืนระดับนี้ได้หรือเปล่า ซึ่งก็ค่อนข้างมีความเสี่ยง ลำบากเหมือนกัน ก็รอลุ้น ถ้ายืนไม่ได้ หรือหลุดระดับนี้ไปก็คงดูไม่ดีนักสำหรับตลาด" น.ส.ปองรัตน์ กล่าว
ขณะที่ บล.แอ๊คคินซัน มองแนวโน้มตลาดฯ ภาคบ่าย หากสถานการณ์การเมืองยังออกมาในรูปนี้และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น น่าจะกดดันตลาดหุ้นในภาคบ่าย ให้ปรับตัวลงไปได้อีก แนวรับสำคัญของวันนี้อยู่ที่ระดับ 660 จุด หลังจากตลาดภาคเช้า มีแรงขายที่เกิดขึ้นจนทำให้ดัชนีฯภาคเช้าปิดที่ระดับต่ำสุดของวัน หลักๆแล้วมาจากการเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ NBT ของกลุ่มพันธมิตร ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเองก็ระส่ำตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีฯปิดตลาดเช้าที่ 662.36 จุด ลดลง 15.8 จุด
"ตลาดแบบนี้คงทำอะไรมากไม่ได้ ผู้ที่ขาดทุนน้อยและไม่อยากเสี่ยงกับตลาด หากเปิดตลาดดัชนีฯลงไม่รุนแรง อาจต้องอาศัยเป็นจังหวะ cut loss .....ส่วนผู้ที่ทำใจได้กับตลาด เพราะผ่านเรื่องแบบนี้มามาก รอให้ฟ้าลมสงบนิ่ง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะขายหรือซื้อเพิ่มดี เนื่องจากสถานการณ์ยังถือว่าก่ำกึ่งระหว่างรุนแรงและสันติวิธี" บทวิจัยของบล.แอ๊คคินซัน ระบุ
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--