ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 26.62 จุดหลังดัชนีความเชื่อมั่นสหรัฐพุ่งเกินคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 27, 2008 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าพายุโซนร้อน"กุสตาฟ"อาจสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกและจะหนุนราคาน้ำมันดิบให้พุ่งขึ้นอีก นอกจากนี้ การแสดงความคิดเห็นเรื่องเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังทำให้นักลงทุนวิตกกังวลด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 26.62 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 11,412.87 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.67 จุด หรือ 0.37% แตะที่ 1,271.51 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 3.62 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 2,361.97 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กราว 841 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.44 พันล้านหุ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนส.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 56.9 จุด จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 51.9 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 53.0 ในเดือนส.ค.

ท้อด ลีออง นักวิเคราะห์จากบริษัทแชฟเฟอร์ส อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า แม้ดาวโจนส์ปิดในแดนลบ แต่ภาวะการซื้อขายค่อนข้างผันผวน หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า คณะกรรมการเฟดยังคงวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบที่ต้องการ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากบรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่าธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐที่ประสบปัญหามีจำนวน 117 แห่งในช่วงสิ้นไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นจาก 90 แห่งในไตรมาสแรก โดยสินทรัพย์ของธนาคารที่ประสบปัญหามีมูลค่ารวม 7.83 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 2.63 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ สิ้นสุดไตรมาสแรก

นักลงทุนวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กจะพุ่งขึ้นอีกหลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐเตือนว่า พายุกุสตาฟ ซึ่งมีความเร็วลมประมาณ 60 ไมล์ (96 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างที่เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกและมีแนวโน้มว่าจะพัดเข้าสู่ชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโกในระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-1 ก.ย.นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าพายุอาจสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก

โธทัส กัลลาเฮอร์ นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส ออกรายงานคาดการณ์ว่า บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่สุดของโลก จะขาดทุนอย่างหนักในไตรมาส 3 และประกาศลดเป้าหมายราคาหุ้น ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น AIG ดิ่งลง 5.5% ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้

" AIG ซึ่งมีฐานธุรกิจอยู่ในนิวยอร์กได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะถดถอยในตลาดสินเชื่อ ซึ่งส่งผลให้หลายฝ่ายกังวลเรื่องพอร์ทการลงทุนของ AIG สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผมคาดว่า AIG จะขาดทุน 86 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาส 3 จากที่สามารถทำกำไรได้ 13 เซนต์ต่อหุ้น และเราจะไม่แปลกใจเลยหาก AIG ขาดทุนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้" กัลลาเฮอร์กล่าว

หุ้นแฟนนี เม ดีดขึ้น 8.3% หุ้นเฟรดดี แมค พุ่งขึ้น 21% แม้นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัททั้งสองแห่งนี้ ส่วนหุ้นเครดิตสวิส ปรับตัวขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 44.81 ดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ