AOT ปรับเพิ่มระดับรักษาความปลอดภัย แต่ไม่เกี่ยวข้องกับม็อบพันธมิตรฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 28, 2008 15:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายเสรีรัตน์ ประสุตตานนท์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.ได้รับแจ้งการประเมินสถานการณ์ด้านความปลอดภัยทั้งภายในและต่างประเทศจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และได้ปรับเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยานทุกแห่งอีก 1 ระดับ คือ อยู่ที่ระดับ 3 จากเดิมระดับ 2 ซึ่งระดับมาตรการด้านความปลอดภัยมีทั้งหมด 4 ระดับ
"ความปลอดภัยอยู่ที่ระดับ 3 ในช่วงที่ประชาชนเดินทางหนาแน่น เช่น ช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ โดย ทอท.จะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. นี้เป็นต้นไป โดยจะดำเนินการไปจนกว่าจะได้รับแจ้งการประเมินสถานการณ์ที่ผ่อนคลายลงก็จะปรับลดระดับต่อไป" นายเสรีรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่าผู้โดยสารต่างชาติยังมั่นใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว หรือประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยสังเกตจากปริมาณผู้โดยสารที่ไม่ลดลง และมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ในปี 51 และเมื่อเร็วๆนี้ สายการบินจากอิหร่านได้แสดงความสนใจขอเพิ่มจุดบินมายังประเทศไทย โดยจะทำการบินที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การชุมนุมยืดเยื้อก็อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารที่ลดลงได้
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า การปรับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งที่ผ่านมาท่าอากาศยานมีการปรับเพิ่มระดับวันเดียวกัน ทอท.ได้ร่วมกับ AIRPORTS COUNCIL INTERNATIONAL หรือ ACI จัดประชุมใหญ่ประจำปีของท่าอากาศยานที่เป็นสมาชิกของโครงการจัดอันดับคุณภาพการบริการ AIRPORT SERVICE QUALITY(ASQ) ซึ่งมีท่าอากาศยานกว่า 150 แห่งทั่วโลกเข้าร่วมโครงการ
สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น คือ จัดเจ้าหน้าที่ประจำทางเข้าออกอาคารผู้โดยสาร และสุ่มตรวจสัมภาระของผู้โดยสารที่ผ่านเข้าออก จากเดิมที่จะเฝ้าระวังเพียงอย่างเดียวไม่มีการสุ่มตรวจ ขณะเดียวกันยังได้ประสานงานกับตำรวจในพื้นที่โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมความพร้อมหากกลุ่มพันธมิตรปิดทางเข้าออก อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะไม่ปิดทางเข้าออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพราะท่าอากาศยานเป็นประตูต้อนรับต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทย ซึ่งคงไม่มีใครต้องการสร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้กับนักท่องเที่ยว
นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ในปี 52 ทอท.จะส่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าร่วมโครงการจัดอันดับคุณภาพการบริการ ฯ มั่นใจว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะติด 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีบริการที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ระหว่างการปรับปรุงการบริการในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเช็คอิน ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง การติดป้ายสัญลักษณ์เพิ่มเติม ส่วนที่อยู่ในระดับดีแล้วคือด้านความสะอาด
ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารที่ลดลง โดยในช่วงตารางบินฤดูร้อนนี้พบว่าปริมาณผู้โดยสารลดลง 7% แต่คาดว่าภาพรวมทั้งปีปริมาณผู้โดยสารจะลดลงประมาณ 2% ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการช่วยเหลือสายการบินที่ประสบปัญหาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันนั้น ท่าอากาศยานอินชอนได้ปรับลดค่าธรรมเนียมการขึ้นลงอากาศยานลง 2% ตั้งแต่ปี 2550

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ