ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายตัวเกินความคาดหมาย
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 73.1 จุด แตะที่ 5,601.2 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,496.9-5,634.0 จุด
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนคึกคักขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาสสอง ขยายตัวขึ้นในอัตรา 3.3% ต่อปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่มีการประเมินในเบื้องต้น และขยายตัวดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวขึ้นเพียง 2.7%ต่อปี ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 212.67 จุด หรือ 1.85% แตะที่ 11,715.18 จุด
นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นธนาคาร HBOS ดีดขึ้น 2.5% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สพุ่งขึ้น 3.2% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 3.9% หุ้นธนาคาร HSBC ดีดขึ้น 4.2% หุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบี ทะยานขึ้น 5.1% และหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดพุ่งขึ้น 5.8%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจับตาดูการคาดการณ์ของเดวิด แบลนช์ฟลาวเวอร์ หนึ่งในคณะกรรมการบอร์ดของธนาคารกลางอังกฤษที่ว่า ตัวเลขว่างงานในอังกฤษอาจอยู่ที่ 2 ล้านคนภายในช่วงคริสต์มาสปีนี้ และแสดงความเห็นว่าอังกฤษจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวลงนานเกินไป
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นบีพีดิ่งลง 0.1% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 0.9% หุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ร่วงลง 1.7% และหุ้นบีจีดิ่งลง 1.9%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--