ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวน์ ตามตลาดตปท. แม้จะยังกังวลเรื่องการเมือง

          นายปรเมศร์ ทองบัว ผู้อำนวยการสำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวน์ได้ในช่วงสั้น ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ยืนแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ โดยตลาดบ้านเราเชื่อว่ายังมีแรงซื้อกลับเข้ามาได้เล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางการเมืองอยู่ ที่ยังหาทางออกไม่เจอ และอาจจะมีความยืดเยื้อออกไป ซึ่งไม่น่าจะส่งผลดีต่อตลาดฯ
          ด้านนายคมสันต์ ปรมาภูติ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับดาวโจนส์ และตลาดภูมิภาคที่ได้ปรับตัวขึ้น พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 680 จุด แนวต้าน 690 จุด
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(28 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,715.18 จุด เพิ่มขึ้น 212.67 จุด(+1.85%) ดัชนีเอส
แอนด์พี 500 ปิดที่ 1,300.68 จุด เพิ่มขึ้น 19.02 จุด(+1.48%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,411.64 จุด เพิ่มขึ้น 29.18 จุด 
(+1.22%)  
          - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 0.54 ล้านบาทเมื่อวานนี้
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 115.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.56
ดอลลาร์หรือ 2.17%
          - ตำรวจถือคำสั่งศาล จ่อรื้อเวทีชุมนุมวันนี้, นักวิชาการ-ส.ว.จี้รัฐถอนข้อหากบฏ 9 แกนนำพันธมิตร ชี้เป็นประเด็นนำไปสู่ความรุนแรง ยันรัฐบาลลาออก-ยุบสภาแก้ปมขัดแย้ง "รสนา" ชี้การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ไม่ใช่ยึดแต่กฎหมาย ด้าน "สมัคร" สั่งระงับแผนสลายม็อบ ย้ายงาน 116 วัน จากวันแม่สู่วันพ่อ ไปที่สวนอัมพร ด้านทนายพันธมิตรร้องคัดค้านศาลแพ่งคุ้มครองชั่วคราวฟ้องไล่พันธมิตรจากทำเนียบ พร้อมอุทธรณ์คัดค้านข้อหากบฏ
          - "พูนภิรมย์" เร่งคลอดแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี ดึงพืชที่ไม่ใช่อาหารผลิตเอทานอล ไบโอดีเซล พร้อมนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเป็นพลังงานทางเลือกช่วงปลายแผน ด้านเอกชน ติงนโยบายรัฐล้มเหลว แนะตั้งคณะกรรมการระดับชาติดูแลทำงานต่อเนื่อง
          - สศค. จะประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ โดยจะนำปัจจัยปัญหาทางการเมืองเหตุการณ์ผลกระทบต่างๆ จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจปี 2551 จะขยายตัว 5-6%
          - สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึงรายงานสถานการณ์และการเตือนภัยเอสเอ็มอีรายสาขาทั่วประเทศ 4,200 ราย พบว่าการทำกำไรของเอสเอ็มอีปี 2551 อยู่ที่ 22% ลดลงจากปี 2548 ที่ทำได้ 26.70% หรือลดลงจาก 4.2 แสนล้านบาท เหลือ 2.2 แสนล้านบาทในปีนี้ สาเหตุจากเอสเอ็มอีขาดโอกาสทางตลาด ยังมีจุดอ่อนในการจัดการและองค์ความรู้ไม่พอปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง
          - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.คงใช้เวลาในการศึกษารายละเอียด รวมทั้งประโยชน์ที่จะได้รับจากการขยายเวลาซื้อขายหุ้นอีก 2-3 เดือน ก่อนเสนอให้คณะกรรมการ ตลท.อนุมัติต่อไป นอกจากนี้ยังต้องหารือกับสมาชิกบริษัทหลักทรัพย์ ก่อนว่าการขยายเวลาซื้อหุ้นดังกล่าวจะคุ้มค่าและได้ประโยชน์มากน้อยเพียงไหน