BAYรีบาวน์ตามกลุ่มแบงก์-รับแรงหนุนจากจะซื้อกิจการการเงินเพิ่ม/เทคนิคดี

          ตามที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) แจ้งว่า อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial Services) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตของธนาคาร ย้ำทำตามนโยบายกลุ่มจีอีที่ต้องการเติบโตด้วยการเทกโอเวอร์เป็นหลัก
          นายณาศิส ประเสริฐสกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ราคาหุ้น BAY เช้านี้คาดว่จะรีบาวน์ได้เช่นเดียวกับหุ้นอื่น ๆ ในกลุ่มแบงก์ โดยรับผลจากตลาดโดยรวมได้มีการปรับตัวขึ้น ส่วนประเด็นเรื่องที่จะเข้าไปซื้อกิจการทางการเงินมองว่ายังไม่มีความชัดเจน คงยังต้องรอดูต่อไปว่าจะซื้อกิจการอะไร แต่ประเด็นนี้ก็อาจจะเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนมากขึ้น
          สำหรับสัญญาณทางเทคนิคแสดงทิศทางการรีบาวน์อย่างชัดเจนตามกลุ่มแบงก์ โดยมีแนวรับที่ 18.90, 18.30 บาท ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 21, 22 บาท 
          บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส แนะ"ซื้อ"หุ้น BAY ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 27 บาท ความเห็นว่า BAY ได้มีการเตรียมการสำหรับแผนการเข้าซื้อกิจการมาโดยต่อเนื่อง โดยเฉพาะฐานเงินกองทุน ซึ่งภายหลังจากการแปลงสภาพ BAY-W1 ครั้งสุดท้าย จะทำให้ Tier 1 ของ BAY เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงถึง 13.7%  ซึ่งจะช่วยรองรับการเติบโตของสินเชื่อเชิงรุก (ตามปกติ) ตามเป้าที่ตั้งไว้ถึง 1.24 แสนล้านบาท หรือเติบโต 32.4% yoy การเติบโตแบบ Inorganic ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดดังกล่าว  
          ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของ BAY มีมติเห็นชอบให้ธนาคารฯ ดำเนินการเพื่อลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Financial service) เพื่อเน้นการเติบโตของธนาคารฯ โดยได้มอบหมายให้ผู้บริหารพิจารณารายละเอียดและเงื่อนไข รวมถึงกำหนดราคาสุดท้ายที่จะยื่นแสดงความจำนงในการลงทุน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระบวนการยังอยู่ระหว่างการเจรจาและยังไม่เสร็จสิ้น จึงยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด แต่ธนาคารฯ ได้ระบุว่าจะแจ้งข้อมูลให้ทราบเพิ่มเติมได้ภายในวันที่ 3 ต.ค.51 นี้ 
          แผนการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องไม่ว่าจะเป็นธุรกิจบัตรเครดิต (บ.บัตรกรุงศรีซึ่ง BAY และ GE ถือหุ้นฝ่ายละ 50%) หรือ ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ (บริษัทอื่นๆ นอกตลาด เพราะที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนในบริษัทเช่าซื้อรถยนต์ในกลุ่มของ GE ได้แก่ GECAL ไปแล้ว) ล้วนเป็นธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่มีศักยภาพการทำกำไรระดับสูง (แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน) อีกทั้งฝ่ายวิจัยมีความเห็นว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเข้าลงทุนเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงชะลอตัว จะทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องพิจารณาปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ และทำให้ผู้ซื้อ (Acquirer) ได้ราคาเข้าลงทุนที่เหมาะสมมากขึ้น ซึ่งหากเป็นกรณีของบัตรเครดิต ได้แก่ บ.บัตรกรุงศรีฯ ฝ่ายวิจัยมีความเห็นว่าบริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองหนี้ฯ ตามนโยบายของกลุ่ม GE อย่างเข้มงวด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการจัดทำงบการเงินรวมเข้ามาได้มาก 
          เช้านี้ ราคาหุ้น BAY เปิดที่ 20 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 20.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 20.00 บาท ขณะนี้เมื่อเวลา 9.59 น.ราคาหุ้น BAY อยู่ที่ 20.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท(+2.03%)มูลค่าซื้อขาย 14.85 ล้านบาท