นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) เปิดเผยว่า ในปีนี้รายได้ของบริษัทคงจะปรับตัวลดลงมาใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 2,398.41 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงจากเป้าหมายที่เคยวางไว้ว่าจะโต 25% จากปีก่อน
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอ ไม่ว่าจะเกิดจากการส่งมอบงานล่าช้า ขณะที่ลูกค้าบางรายตัดงบลงทุนและบางรายยกเลิกบริการหลังการขาย (Maintenance Service) ทำให้กระทบต่อผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 51
นายศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากผลกระทบดังกล่าวอาจจะทำให้กระทบต่ออัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนด้วย โดยคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะเหลือ 6-7% จาก 8% ในปีก่อน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจะเหลือ 20% จาก 25% ถึงแม้ในไตรมาส 3 จะมีงานค้างและรอรับรู้จากไตรมาส 2 กว่า 500 ล้านบาทก็ตาม
"Q2 ที่ผ่านมาถือว่าเลวร้ายและกระทบต่อเรามาก แต่เราก็จะรักษาระดับ Backlog ให้อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท จากปัจจุบันที่มีBacklog อยู่ 1,047 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลังก็น่าจะดีขึ้น"นายศิริวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ในเดือน ก.ย.จะมีการเซ็นสัญญาติดตั้งระบบกับ SME ซึ่งจะทำให้ Backlog เป็น 1.3 กว่าพันล้านบาท ซึ่ง Backlog ที่มีอยู่จะทยอยรับรู้ทั้งหมดในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมประมูลโครงการใหม่ มูลค่า 1.7 พันล้านบาทของ บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสท. โทรคมนาคม คาดว่า จะรู้ผลในไตรมาส 4/51 ซึ่งหากได้ครึ่งหนึ่งของมูลค่างานที่เข้าประมูลก็พอใจ
นายศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า บริษัทคงไม่มีแผนขายบริษัทลูก 3 ใน 4 แห่งที่มีผลขาดทุน เนื่องจากยังมีงานค้างอยู่และงานส่วนใหญ่เป็นการรอการลงทุน โดยเฉพาะหาก 3G เข้ามาก็จะช่วยผลักดันให้รายได้เติบโต
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/นิศารัตน์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--