นักวิเคราะห์คาดแนวโน้มตลาดหุ้นนิวยอร์กสัปดาห์นี้ขึ้นอยู่กับทิศทางราคาน้ำมัน,ข้อมูลจ้างงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 1, 2008 06:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กสัปดาห์นี้จะยังคงขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) และรายงานผลประกอบการและความเคลื่อนไหวในทุกๆด้านของบริษัทเอกชน
คิม คอจฮีย์ นักวิเคราะห์จาก Fort Pitt Capital Group กล่าวว่า แม้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐชะลอตัวลง แต่ตัวเลขการใช้จ่ายในภาคธุรกิจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่พยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้สามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยรุนแรงได้ แม้ภาคการเงินยังคงประสบปัญหาอยู่ก็ตาม
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดนิวยอร์กสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ซึ่งสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันอังคาร ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ค. และ ABC News จะเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค. ในวันอังคารเช่นกัน
วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ค. และ ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ส่วนในวันพฤหัสบดี ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนส.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยในไตรมาสสอง กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจภาคบริการเดือนส.ค.
ในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. ซึ่งเป็นข้อมูลที่นักลงทุนจับตาดูมากที่สุด โดยนักวิเคราะห์ในโพลล์ Thomson/IFR คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะลดลง 75,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 8 เดือน
นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์คาดว่านักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะจับตาดูทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX หลังจากมีรายงานว่า จิม รูอิลเลอร์ นักอุตุนิยมวิทยาอาวุโสจาก Planalytics.com กล่าวว่า พายุเฮอริเคน"กุสตาฟ" อาจสร้างความเสียหายร้ายต่อภาคการผลิตน้ำมันในภูมิภาคอ่าวเม็กซิโก โดยคาดว่าจะร้ายแรงยิ่งกว่าพายุเฮอริเคน "แคทรินา"
พายุกุสตาฟอาจทวีความรุนแรงเป็นพายุระดับ 5 ในวันนี้ ขณะเคลื่อนตัวข้ามอ่าวเม็กซิโก โดยอิทธิพลของพายุกุสตาฟ ส่งผลให้บริษัทบีพี บริษัทเอ็กซอน โมบิล และรอยัล ดัตช์ เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ ปิดการดำเนินงานที่บ่อน้ำมันต่างๆและได้เร่งอพยพคนงานเข้าฝั่ง โดยสำนักงานบริการการจัดการสินแร่แห่งสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้มีการระงับการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกประมาณ 77% และก๊าซธรรมชาติ 37% นอกจากนี้สถานีขนย้ายน้ำมันดิบขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐอย่าง หลุยเซียน่า ออฟชอร์ ออยล์ พอร์ท ก็ได้ปิดดำเนินการแล้วเช่นกัน สำนักข่าวเอพีรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ