ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าเป็นลบ ตามทิศทางตปท.การชุมนุมประท้วงยังยืดเยื้อ

         นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้มองทิศทางด้านลบเพราะปัจจัยยังไม่มีอะไรดีขึ้น ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ ราคาน้ำมันอ่อนลง แม้จะมีพายุแต่ผลของพายุในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้หนุนราคาน้ำมันมากเท่าไร 
          ปัจจัยในประเทศชัดเจนการยืดเยื้อของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ท่าทีของรัฐบาลยังเหมือนเดิมไม่ประกาศอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ว่าจะเป็นยุบสภาหรือลาออก ขณะที่ความวุ่นวายก็เกิดขึ้นบางหน่วยงานที่ประกาศหยุด เช่น ปิดล้อมสนาม รถไฟ พวกนี้กระทบกับประชาชน ฉะนั้นปัจจัยเหล่านี้ถ้ายืดเยื้อก็จะกระทบต่อเนื่อง แนะถือเงินสด 
          "ต่างประเทศก็ปรับลงเยอะ 1-2% ของเราแนวโน้มก็ปรับลงด้วย แนวรับที่ 675-680 จุด แนวต้าน 685 จุด แต่วันนี้คงดูแนวรับมากกว่าเพราะตลาดเป็น trend การลง" นายอนุพนธ์ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(29 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,543.55 จุด ลดลง 171.63 จุด(-1.47%) ดัชนีเอส
แอนด์พี 500 ปิดที่ 1,282.83 จุด ลดลง 17.85 จุด(-1.37%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,367.52 จุด ลดลง 44.12 จุด 
(-1.83%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 876.71 ล้านบาทเมื่อ 29 ส.ค.51
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 115.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.13ดอลลาร์
          - กลุ่มพันธมิตรประกาศรุกหนักภายใน 1-2 วันนี้ ขู่ปิดสนามบินเพิ่ม รวมถึงสุวรรณภูมิ ขณะที่ม็อบเหนือ-อีสานรวมตัวต้าน หนุนรัฐบาล ประกาศพร้อมร่วมกับ นปก.ในกรุง  "โกวิท" สั่งตำรวจจับตาสถานที่ราชการทั่วประเทศ อย่างใกล้ชิด หวั่นเกิดการปะทะระหว่างพันธมิตรและนปก. ด้านสันติบาลไม่กังวล แต่หวั่นมือที่สามสร้างสถานการณ์
          - ถกร่วมสองสภา ผู้นำฝ่ายค้านเสนอ "ยุบสภา" แก้วิกฤติบ้านเมือง "สมัคร" เมินอ้างรักษาระบบ ลั่นเกิดอะไรขึ้นข้างหน้ารับผิดชอบเอง ยันไม่กระสันตำแหน่งแต่ต้องทำหน้าที่ ปูดมีคนจ้องจุดชนวน ฉุนกลายเป็นเวทีซักฟอก ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน-ส.ว.จี้นายกฯ "ลาออก" ใช้ความรุนแรง หวั่นเกิดเหตุม็อบปะทะม็อบ นายกฯ ปัดใช้ปืนจี้หัวผู้ชุมนุม ปูดปาแก๊สน้ำตาใส่พันธมิตรมีคนสร้างสถานการณ์
          - ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาวะแนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้าย ล่าสุดในเดือน ก.ค.ปีนี้ คาดว่าประเทศไทยจะขาดดุลสุทธิ 1,799 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6.1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีเงินไหลออกมา โดยเฉพาะในส่วนของภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์
          - ในสัปดาห์นี้ สศค.จะเสนอผลการศึกษาการปรับปรุงโครงสร้างภาษีทั้งระบบ (ตั้งแต่ปี 2551-2558) ให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พิจารณาตัดสินใจทางนโยบาย หลังจากได้เสนอให้พิจารณาไปแล้ว แต่ รมว.คลัง ให้ไปศึกษาเพิ่มเติม
          - อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยเร็วๆ นี้ กรมฯได้หารือกับผู้ประกอบการรายใหญ่ของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อประเมินแนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 5 เดือนที่เหลือ ซึ่งผู้ประกอบการได้ยืนยันว่าการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า ยกเว้นบางรายการที่อาจจะมีปัญหาบ้าง โดยมั่นใจว่ายอดการส่งออกรวมที่ตั้งไว้ว่าจะขยายตัว 12.5% นั้น ทำได้แน่นอนและอาจจะขยายตัวได้ตามเป้าพิเศษที่ตั้งไว้ 15-20% ได้ด้วย
          - ตลาดหลักทรัพย์ฯ จีบกองทุนความมั่งคั่งรัฐบาลคูเวต ร่วมลงทุนแมทชิ่งฟันด์ พร้อมขนข้อมูลแจงพื้นฐานหุ้นไทย และผลประกอบการ 2 ไตรมาสแรก เผยเบื้องต้นสนใจลงทุนหุ้นกลุ่มอาหาร ส่วนความคืบหน้าล่าสุด บลจ.ยื่นเสนอกองทุนเข้ามาแล้ว 2 ราย โดยเป็นกองทุนเพื่อรายย่อย ที่มีนโยบายลงทุนหุ้นทั่วไปและหุ้นขนาดเล็กในดัชนีฟุตซี่ ในขณะที่กองทุนเพื่อสถาบัน ให้ความสนใจแล้ว 2 ราย แต่ยังอยู่ระหว่างคุยกับพันธมิตรร่วมลงทุน
          - ส.อ.ท.ชี้ 5 ปัจจัยเสี่ยงฉุดครึ่งปีหลัง ความเชื่อมั่นดิ่งอีก กำลังซื้อหดหนัก ส่งออกวิกฤติ ด้านกระทรวงพลังงานเผยค่าไฟจ่อขึ้น 30 สตางค์ต่อหน่วย หลังราคาก๊าซฯ พุ่งพรวด เจ๊ติ้งบีบ กฟผ.แบกก่อน 8 พันล้าน "ศรีไทย" แตกธุรกิจขายตรงเจาะตลาดล่างเพิ่มรายได้
          - นายวิกรม วัชระคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ประเมินว่าครึ่งปีนี้ราคาเหล็กจะปรับลดลงบ้างแต่ไม่มากนักตามทิศทางราคาน้ำมันประกอบกับเข้าช่วงหน้าฝนทำให้การก่อสร้างชะลอตัวลง ทั้งนี้ ปริมาณความต้องการใช้เหล็กภายในประเทศช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โตขึ้น 5% จากปีก่อนที่โต 12.4% หรือประมาณ 6 แสนล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านบาท
          - รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในเดือน ก.ย.นี้จะมีการพิจารณาแนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) งวดเดือน ต.ค.51-ม.ค.52 เท่าที่ประเมินจากราคาเชื้อเพลิงในเบื้องต้นพบว่าค่าเอฟทีงวดใหม่นี้มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นถึง 30 ส.ต./หน่วย เพราะราคาก๊าซธรรมชาติมีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20-30 บาท/ล้านบีทียู มาอยู่ที่ 220-230 บาท/ล้านบีทียู ถือเป็นการปรับขึ้นราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา