นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์(AI) คาดว่า ในครึ่งปีหลังจะมีรายได้และกำไรใกล้ เคียงกับครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 1,475 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 242 ล้านบาท
ในไตรมาส 3/51 บริษัทคาดว่าได้รับผลกระทบในเรื่องต้นทุนการผลิตลูกถ้วยไฟฟ้า โดยเฉพาะด้านเชื้อเพลิงก๊าซ LPG ที่เป็นต้นทุนการผลิตราว 20% เนื่องจากภาครัฐจะปรับขึ้นราคาขึ้นประมาณ 5 บาท/ก.ก. จากไตรมาส 2/51 ราคาอยู่ที่ 15.50 บาท /ก.ก.ซึ่งปรับเพิ่มจากไตรมาส 1/51 ที่ 11.80 บาท/ก.ก.แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีการปรับได้มีการปรับราคาขายในไตรมาส 4/51 ซึ่งจะรับรู้บางส่วนทันทีและบางส่วนไปรับรู้ในปี 52
ประกอบกับธุรกิจน้ำมันพืชขยายตัวมากขึ้น โดยบริษัทจะขยายกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 1 แสนลิตร/วันเป็น 2.5 แสนลิตร/วันในไตรมาส 4/51 โดยบริษัทได้มีการเทคโอเวอร์น้ำมันพืชยี่ห้อ"พาโมลา"โดยจะกระจายขายในกลุ่มอุตสาหกรรมซุปเปอร์มาร์เก็ตและตามห้างสรรพสินค้า
ขณะที่ธุรกิจไบโอดีเซล บริษัทคงกำลังผลิตไว้ที่ 7 หมื่น-1 แสนลิตร/วัน เนื่องจากพบว่าขณะนี้ซัพพลายมากกว่าดีมานด์ และไตรมาส 3/51 จะมีน้ำมันดีเซลราคาต่ำจากรัสเซียเข้ามา
นายธนิตย์ คาดว่า ในปี 52 ธุรกิจจะฟื้นตัวโดยมีรายได้มากกว่า 4 พันล้านบาทจากปีนี้ที่ 3 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 30% ในปี 52 จากปีนี้ 27-28% เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์และท่าเรือจะทำรายได้เข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยคลังน้ำมันที่ จ.ชุมพรน่าจะสร้างเสร็จราวปลายปีนี้ ซึ่งสามารถบรรจุน้ำมันปาล์มดิบได้ 20 ล้านลิตร ขณะเดียวกันจะมีเรือ 3 ลำสำหรับขนส่งให้กับลูกค้า
"คิดว่าหุ้น AI เป็นหุ้นปันผลมากกว่า เรามีปัญหาเรื่องปริมาณสภาพคล่อง เพราะแม้ว่าจะมีฟรีโฟลท 30% แต่ต่างชาติรวม NVDR ถืออยู่กว่า 15% ซึ่งพวกนี้ซื้อแล้วไม่ขายออกไป เรากำลังคิดอยู่ว่าจะแก้ปัญหานี้อาจจะจ่ายปันผลเป็นหุ้น" นายธนิตย์ ระบุ
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--