PRO คาดปี 52 รายได้โต 50% จาก 500-550 ลบ.ในปี 51,ล้างขาดทุนสะสมหมด

          นายเกรียงไกร เลิศศิริสัมพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีการเงินและบริหารสำนักงาน บมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี(1999) หรือ PRO เปิดเผยว่า ในปี 51 บริษัทยังคงเป้ารายได้ที่ 500-550 ล้านบาท แต่ในปี 52 คาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 50% หลังจากที่บริษัทมีโครงการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมัน
          ขณะนี้บริษัทมีแผนซื้อเครื่องจักรแปรรูปขยะเป็นน้ำมันจำนวน 10 เครื่อง โดยใช้กระแสเงินสดที่มีอยู่ประมาณ 100 ล้านบาทและที่เหลือเป็นการกู้จากสถาบันการเงิน แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามุลค่าลงทุนต่อเครื่อง ๆ ละเท่าใด ซึ่งเบื้องต้นโครงการแปรรูปขยะเป็นน้ำมันจะเซ็นสัญญากับเทศบาลและเอกชน 3 จังหวัด คือ ขอนแก่น อุบลราชธานี และชลบุรี ภายในไตรมาส 3/51 รวมกับ จ.สมุทรปราการ ที่มีเครื่องแปรรูปขยะอยู่แล้ว 
          นางเกรียงไกร คาดว่า ปีนี้บริษัทจะสามารถติดตั้งเครื่องแปรรูปขยะเป็นน้ำมันได้ 5 เครื่อง และปี 52 อีก 5 เครื่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะติดตั้งครบเสร็จทั้ง 10 เครื่อง และรับรู้รายได้เดือนก.ย.52 หากติดตั้งครบทั้ง 10 เครื่อง บริษัทประเมินว่าจะมีรายได้ต่อปีจากแปรรูปพลาสติกเป็นน้ำมัน 660 ล้านบาท
          สำหรับสัญญากับทาง จ.ขอนแก่น หากเริ่มติดตั้งที่ 2 เครื่องจะได้ราคากำจัดขยะตันละ 250 บาท มีขยะประมาณ 200 ตัน/วัน อายุสัญญา 15 ปี, ส่วนที่อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เบื้องต้นจะติดตั้ง 1 เครื่อง โดยมีปริมาณขยะ 80 ตัน/วัน และที่ จ.สมุทรปราการ ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว 1 เครื่อง สามารถผลิตน้ำมันได้ 7-8 พันลิตร/วัน และ ได้ค่ากำจัดขยะตันละ 500 บาท โดยที่สมุทรปราการมีขยะ 50 ตัน/วัน 
          ขณะที่ในส่วน จ.ชลบุรีเป็นบริษัทเอกชนที่ให้บริษัทเข้าไปกำจัดขยะในพื้นที่ฝังกลบ ซึ่งจะติดตั้ง 1 เครื่อง 
          นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเซ็นสัญญาขายผลผลิตน้ำมันที่ได้ให้กับ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในไตรมาส 3/51 เช่นเดียวกัน โดยราคาขายจะอิงกับราคาตลาดโลก ซึ่งอยู่ที่ 23-24 บาท/ลิตร เมื่อเทียบจากราคามันในตลาดโลกที่ประมาณ 115 เหรียญ สรอ./บาร์เรล 
          ในปัจจุบันต้นทุนการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 15 บาท/ลิตร ซึ่งเชื่อว่าปริมาณที่ผลิตได้จะสามารถขายได้ทั้งหมด
          "ปีนี้ยังหวังว่าเราจะเห็นกำไรสุทธิ แม้ว่า 2 ไตรมาสแรกเราจะขาดทุนและปีหน้าหลังทำธุรกิจแปรรูปขยะเป็นน้ำมันจะทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิไม่น่อยกว่า 100 ล้านบาท และปี 52 ก็จะล้างขาดทุนสะสมจำนวน 242 ล้านบาทได้หมดเมื่อนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้น 138 ล้านบาทมาล้างบวกกับกำไรสุทธิก็จะสามารถล้างได้"นายเกรียงไกร กล่าว
          นายเกรียงไกร คาดว่า ในเดือนก.ย. นี้จะเซ็นสัญญารีไซเคิลอลูมิเนียมให้กับ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)มูลค่างาน 30 ล้านบาท อายุสัญญา 1 ปี คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/51   
          อย่างไรก็ตาม ธุรกิจฝังกลบขยะและกำจัดขยะที่มีสารพิษ ขณะนี้ยังคงดำเนินการที่ จ.สระแก้ว ซึ่งยังไม่ยกเลิกกิจการ แม้ว่าธุรกิจนี้จะมีภาครัฐเข้ามาควบคุมมากขึ้น หลังจากที่ประสบปัญหาหยุดโครงการไประยะหนึ่งก็ตาม