นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงจากเหตุปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ตลาดอาจจะตกลงไปบ้าง โดยจะสะท้อนผ่านมูลค่าการซื้อขายอาจจะเบาบางแต่จะเบาบางกว่าวานนี้หรือไม่ไม่อาจคาดเดาได้
"ขึ้นอยู่กับความตกใจของนักลงทุน ถ้านักลงทุนตกใจมากวอลุ่มก็อาจจะออกมาพร้อมกับราคาตก ถ้าหุ้นตกแล้วมูลค่าเยอะด้วยแสดงว่าผู้ขายตกใจมาก แต่ถ้าตกใจไม่มากกว่าเดิม บางทีมูลค่าการซื้อขายอาจจะไม่มาก มี 2 ระดับ คือ ยังไม่มั่นใจ ยังเฉยๆ ก็อาจจะซื้อขายกันน้อย อาจจะยืนมอง แต่ถ้าตกใจเลย หุ้นตกด้วย มูลค่ามาด้วย ยากที่จะระบุ เพราะเรื่องเหตุการณ์ทางการเมืองนี่มันประเมินผู้ลงทุนได้ยาก"นายสมบัติ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายสมบัติ คาดว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นซึ่งมองแบบภาพใหญ่ที่ยืดเยื้อมาเกินกว่า 100 วันแล้ว คิดว่าเป็นช่วงท้ายๆแล้ว และยังคิดว่าไตรมาส 4 โดยเฉพาะปลายปี 51 ยังเป็นความหวังอยู่ เพราะขณะนี้เพิ่งต้น ก.ย. เราเดินมาถึงช่วงท้ายๆของการเมือง ถึงจะพยากรณ์ไม่ได้ชัดเจนว่าจะจบแบบอะไร เช่น ยุบสภา หรือแม้ว่าจะสรุปบทสุดท้ายไม่ได้ แต่ดูจากพัฒนาการเก่าๆ ในอดีตทางการเมืองไทย มันควรจะจบได้ในอีกไม่นานมาก
"ถือว่าค่อนข้างใกล้มากแล้ว น่าจะจบภายในเร็วๆนี้ อาจจะในไม่กี่อาทิตยนี้ หรืออาจจะภายในไม่กี่วัน"นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ ยังแสดงความเห็นส่วนตัวว่า ถ้าเทียบกับเหตุการณ์เมื่อตอน 19 ก.ย.49 ซึ่งครั้งนั้นเป็นเพียงการยึดอำนาจ แต่ประชาชนไม่มีการปะทะกันและจบเร็วด้วย แต่ว่ารอบนี้เป็นอีกแบบนึงซึ่งยืดเยื้อ เป็นม็อบ 2 ฝั่ง แล้วปะทะกัน ก็ถือว่ารุนแรงกว่ารอบที่แล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--