ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 120 จุดเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นโวดาโฟน หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส คาดการณ์ว่า โวดาโฟนซึ่งเป็นบริษัทผลิตโทรศัทพ์มือถือยักษ์ใหญ่ จะมีผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 121.0 จุด หรือ 2.15% แตะที่ 5,499.7 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,492.1-5,620.7 จุด
หุ้นโวดาโฟนดิ่งลง 1.8% หลังจากเครดิต สวิส ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นโวดาโฟนลงสู่ระดับ "neutral'' จากเดิมที่ระดับ "outperform'' และคาดว่าผลประกอบการของโวดาโฟนจะต่ำกว่าคาด
"เราคาดว่าผลประกอบการของโวดาโฟนจะออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการแข่งขันที่ดุเดือดในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงโดยเฉพาะในอังกฤษและไอร์แลนด์ จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เราเชื่อว่าราคาหุ้นโวดาโฟนจะร่วงลง 4-5% ซึ่งรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้" เครดิต สวิสกล่าว
หุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 3.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ แนะนำให้นักลงทุน "ขาย" หุ้นบาร์เคลย์ส เนื่องจากบาร์เคลย์สจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มสูงถึง 7.5 พันล้านปอนด์ หรือ 1.33 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหุ้นธนาคาร HBOS ร่วงลง 2.2%
หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่สุดในยุโรป ดิ่งลง 2.4% หลังจากมีข่าวว่าแกล็คโซสมิธไคลน์ยื่นฟ้องบริษัทลูพินของอินเดีย โดยระบุว่า ลูพินวางแผนที่จะนำยา Combivir ซึ่งเป็นยารักษาโรคเอดส์ออกจำหน่าย ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิบัตรของสหรัฐ
หุ้นยูนิลิเวอร์ดิ่งลง 3.4% หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน คาเซนอฟ ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นยูนิลิเวอร์ลงสู่ระดับ "underperform'' จากเดิมที่ระดับ "outperform'' เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--