ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร ฉุดฟุตซี่ปิดร่วง 137.6 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นธนาคาร HBOS ดิ่งลงหนักสุด หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า ธนาคารกลางจะใช้กฏข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นในการปล่อยกู้
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดดิ่งลง 137.6 จุด หรือ 2.5% แตะที่ 5,362.1 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,362.1-5,541.7 จุด
          เดวิด บูอิค นักวิเคราะห์จาก BGC Partnersกล่าวว่า หุ้นกลุ่มการเงินถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีประกาศลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนปีนี้ลงเหลือ 1.1-1.7% และ 0.6-1.8% ในปีหน้า จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.8% สำหรับปีนี้ และ 1.5% ในปีหน้า นอกจากนี้ ประธานอีซีบีระบุว่าทางธนาคารกลางจะใช้กฎข้อบังคับด้านการปล่อยกู้ที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อยับยั้งวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ
          อีซีบีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ในการประชุมเมื่อเย็นวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ แม้เศรษฐกิจในเขตยุโรปมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอยก็ตาม ซึ่งการตรึงดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้เป็นไปตามความคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
          ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นธนาคาร HBOS ดิ่งลงหนักสุด 6.8% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 6% และหุ้นธนาคาร HSBC ร่วงลง 3.3% 
          หุ้นเชลล์ร่วงลง 3.2% และหุ้นเคร์น เอ็นเนอร์ยี ดิ่งลง 3.7% หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงลงติดต่อกันหลายวัน ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 2.7% หลังจากราคาโลหะร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ