SECC เพิ่มทุน 700 ล้านหุ้น จัดสรร PP ที่ 2.1 บ.-รองรับวอร์แรนต์ให้ผถห.เดิม

           บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC)  เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จัดสรรจำนวน 500 ล้านหุ้นเสนอขายให้แก่บุคคลใน
วงจำกัด (PP) ในคราวเดียว หรือหลายคราว ในราคาหุ้นละ 2.10 บาท 
          และอีก 200 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 2 ที่ให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน ใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 2 (SECC-W2)จำนวน 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น มีอายุ 3 ปี ราคาใช้สิทธิ 1 บาทต่อหุ้น 
           ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติลดทุนจดทะเบียนบริษัท จำนวน 315,750,569 บาท หรือจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 315,750,569 หุ้น ทำให้ทุดจดทะเบียนลดเหลือ  714,025,981 บาท จากเดิม 1,029,776,550 บาท เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทฯ จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 409,776,550 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในกรณีที่บริษัทไม่สามารถเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง
          โดยในระหว่างวันที่ 25 - 29 ส.ค.51 มีผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จองซื้อหุ้นรวมทั้งสิ้น 194,025,981 หุ้น น้อยกว่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น ทำให้มีหุ้นสามัญเหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ จำนวน 215,750,569 หุ้น
          นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท อนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อย ใช้ชื่อ บริษัท เอสอีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด (SECC HOLDING COMPANY LIMITED)  โดยมีทุนจดทะเบียน เบื้องต้นจำนวน 300 ล้านบาท  และบริษัทจะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยในอัตราส่วนร้อยละ 99.99
          เพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าวหรือกิจการอื่นในอนาคต โดยเฉพาะโครงการให้ ขสมก. เช่ารถยนต์โดยสารซึ่งใช้เครื่องยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ(CNG) เป็นเชื้อเพลิงจากเอกชน เบื้องต้น จำนวน 4,000 คัน ที่ครม.อนุมัติแล้ว โดยใช้วิธีให้เอกชนเข้าร่วมเสนอราคาค่าเช่าทางอิเล็คทรอนิค (E-AUCTION) นั้น บริษัทเห็นว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการนำรถยนต์โดยสารเข้าจากต่างประเทศเพื่อนำมาให้เช่า ซึ่งอยู่ในแนวทางธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่เพียงแต่แตกต่างกันตรงที่นำเข้ามาให้เช่า ไม่ได้ขาย เท่านั้นจึงเห็นควรให้บริษัทเข้าร่วมเสนอราคาด้วยและเพื่อให้แยกการดำเนินกิจการในธุรกิจต่างๆ ของบริษัทให้ชัดเจน