ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนในระหว่างวันจากกระแสความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ หลังจากที่ทางการสหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอ แต่ต่อมาดัชนีสามารถดีดตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวกได้สำเร็จจากแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 32.73 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 11,220.96 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดไต่ระดับขึ้น 5.48 จุด หรือ 0.44% แตะที่ 1,242.31 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 3.16 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 2,255.88 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.2 พันล้านหุ้น เมื่อเทียบกับปริมาณการซื้อขายเมื่อวานนี้ที่ 1.3 พันล้านหุ้น โดยในวันนี้ตลาดมีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบเล็กน้อย
โดยในช่วงเช้าตลาดเปิดทำการท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เหงียบเหงา หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า อัตราจ้างงานของสหรัฐในเดือนส.ค.ร่วงลงหนักกว่าคาดการณ์ถึง 84,000 ตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นสถิติการปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งทะยานสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ระดับ 6.1%
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นถึงความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจะยังคงซบเซาต่อเนื่อง โดยในปีนี้สหรัฐมีตัวเลขจ้างงานที่ลดลงเกือบ 550,000 ตำแหน่งแล้ว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนหมดหวังที่จะได้เห็นภาพเศรษฐกิจฟื้นตัวในปลายปีนี้ แต่จากผลพวงของข้อมูลเศรษฐกิจที่เลวร้ายจนส่งผลให้ดัชนีร่วงลงอย่างหนักได้กลายเป็นจุดที่ดึงดูดให้นักลงทุนเห็นถึงโอกาสเหมาะในการเข้าส่งแรงซื้อจนหนุนให้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นปิดในแดนบวกได้สำเร็จ
แจ็ค อาบลิน นักวิเคราะห์จากฮาร์ริส ไพรเวท แบงก์กล่าวว่า "ตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่เลวร้ายเป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเผชิญช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีหวังที่จะเห็นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นมากนักในขณะนี้"
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังเต็มใจที่จะเข้าเสี่ยงในตลาดหุ้นด้วยการช้อนซื้อหุ้นที่ถูกแรงเทขายกระหน่ำออกมาอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารและธุรกิจประกันจนช่วยพยุงให้ดัชนีดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินพุ่งขึ้นถ้วนหน้า อาทิ หุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์ทะยานขึ้น 4.2% ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เดินหน้าขึ้น 5.3% เช่นเดียวกับหุ้นวาโชเวีย คอร์ปที่ปิดบวก 7.9% และหุ้นเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ปิดทะยานขึ้น 6.8%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานล้วนปิดร่วงลงจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลงต่อเนื่อง โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ปทรุดตัวลง 1 ดอลลาร์ไปอยู่ที่ระดับ 80.22 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ตกลงแตะที่ 75.43 ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์: orasa@infoquest.co.th--