ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าวันนี้ดีดตัวไปแล้วกว่า 2% โดยเดินหน้าบวกต่อหลังจากพุ่งขึ้นมากว่า 10 จุด เป็นการปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคและต่างประเทศที่หันมาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มการเงิน หลังกระทรวงการคลังสหรัฐใกล้สรุปแผนการช่วยเหลือแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาซับไพร์ม ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ คาดว่านายกรัฐมนตรีอาจมีการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในเร็ว ๆ นี้
เมื่อเวลา 11.49 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 655.85 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด (+1.56%)
ต่อมาเมื่อเวลา 12.06 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 658.92 จุด เพิ่มขึ้น 13.12 จุด(+2.03%)
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (KGI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในแถบเอเชียที่มี Sentiment ดีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯได้เข้าไปอุ้มบริษัทฯที่มีปัญหาในสหรัฐฯ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พลิกกลับมาเป็นบวกได้ และเช้านี้ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่จะบวกเฉลี่ยราว 3% โดยหุ้นที่นำตลาดในเช้านี้เป็นหุ้นในกลุ่มแบงก์ รองลงมาเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน
อย่างไรก็ดี ปัจจัยภายในประเทศเรื่องของสถานการณ์การเมืองยังเป็นเรื่องที่นักลงทุนวิตกกังวลอยู่
นายอดิศักดิ์ ยังคาดว่า ช่วงบ่ายเมื่อตลาดหุ้นอื่นในแถบยุโรปเปิดตลาดขึ้นมาก็น่าจะพากันบวกตามมาในทิศทางเดียวกับตลาดในแถบเอเชีย ทั้งนี้ ได้ให้แนวรับ SET ไว้ที่ 650 จุด ซึ่งเป็นจุด Cut loss ด้วย ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 660-663 จุด พร้อมมองหุ้นที่น่าจับตามองเป็นหุ้นใน กลุ่มพลังงาน, ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มที่ดิน
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--