"เสี่ยป๊อบ"ชงแผนซื้อ PM-MNR ให้ผถห.MPIC รอบ 2 ออกปากไม่ยื้อหากไม่ผ่าน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 8, 2008 15:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          "สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย"หรือ เสี่ยป๊อบ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (MPIC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า เล็งดันแผนแลกหุ้นเพื่อซื้อกิจการ บริษัท แปซิฟิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด(PM)และบริษัท มีเดีย เน็ตเวิร์ก รีเทล จำกัด(MNR)ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น MPIC อีกครั้ง ยันไม่ถอดใจเพราะเป็นดีลที่น่าสนใจและเป็นโอกาสทางธุรกิจจริงๆ แต่ถ้าผู้ถือหุ้นยังคัดค้านต้องยอมรับความจริงและเปลี่ยนแนวทางการขยายธุรกิจด้านปีกขวาของ MAJOR ไปทางด้านอื่นแทน
*หลังจากผู้ถือหุ้น MPIC ไม่อนุมัติแผนซื้อกิจการ PM-MNR แล้วจะทำอย่างไรต่อไป
"บริษัทยังไม่ล้มเลิกแผนซื้อซื้อกิจการ PM และ MNR แต่จะนำเข้าที่ประชุมบอร์ดกันใหม่เพื่อขอมติจากผู้ถือหุ้นอีกครั้ง สิ่งที่เราต้องทำใหม่คือถ้าเราคิดว่า Project นี้ดีก็ต้องเอาเข้ากระบวนการอีกรอบนึง ซึ่งก็ถือว่าเสียโอกาสทางธุรกิจไป ทำให้เสียเวลาไปหลายเดือน เพราะกว่านัดประชุมบอร์ดอีกครั้งน่าจะภายใน 1 เดือนนี้ เรียกประชุมผู้ถือหุ้น กว่าจะแจ้งให้ทราบ ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ก่ำกึ่งเหมือนกันว่าจะทันภายในปีนี้หรือเปล่า ไม่ปลายปีก็ต้นปี"
*วิเคราะห์สาเหตุผู้ถือหุ้นคว่ำดีลเป็นเพราะอะไร
"กลุ่มที่คัดค้านมองด้านการซื้อขายหลักทรัพย์มากเกินไป ไม่ได้มองเรื่องการดำเนินธุรกิจ เพราะถ้ามองเรื่องการดำเนินธุรกิจจะเห็นว่าดีลนี้ถ้าทำแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อบริษัท ประเด็นที่ไม่ผ่านคือด้วยความที่เป็นรายการเกี่ยวโยงกับ MAJOR ใช้สิทธิ์ออกเสียงไม่ได้ ทำให้หุ้นแค่ไม่กี่สิบล้านหุ้นก็ค้านได้แล้ว เพราะมองเรื่องราคาหุ้นควรจะเป็นตัวนำ ถ้าราคาหุ้นขึ้นไปสูงกว่านี้คงจะโหวตให้
แต่ในมุมของคุณวิชา(พูลวรลักษณ์)ไม่ได้มองที่ราคาหุ้นระยะสั้น การทำธุรกิจสไตล์ของ MAJOR จะมองถึงภาพธุรกิจโดยรวม เราคิดว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งดีก็นำมาเสนอผู้ถือหุ้นเรา ถ้าผู้ถือหุ้นคิดว่าไม่ดีก็ออกความเห็นไป"
*คิดว่าประชุมผู้ถือหุ้นครั้งหน้าจะเห็นชอบแผนงานดังกล่าวหรือไม่
"การประชุมผู้ถือหุ้นคราวหน้า MAJOR ก็จะยังไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเหมือนเดิม แต่เชื่อว่าผู้ถือหุ้นรายอื่นก็คงเปลี่ยน อย่างกลุ่มที่คัดค้านไม่ได้ถือหุ้นเท่าเดิมแล้ว ก็ต้องดูวันที่ประชุมคราวหน้าโครงสร้างผู้ถือหุ้นเปลี่ยนไปเป็นยังไง ถ้าไม่เปลี่ยนมตินี้ก็คงไม่ผ่าน แต่ถ้าเปลี่ยนไปก็มีโอกาสที่จะผ่าน"
*มีแผนรองรับอย่างไร หากผู้ถือหุ้นยังยืนกรานไม่เห็นด้วยกับดีลดังกล่าว
"เนื่องจากเป็นรายการเกี่ยวโยง เราจึงไม่เลือกวิธีอื่น ต้องเลือกวิธีที่อธิบายได้ และวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ยังไงเราต้องดำเนินเรื่องกันใหม่เพื่อให้ผ่านมติผู้ถือหุ้น เอาให้ผ่านให้ได้ น่าจะลองได้อีกสักครั้งนึงแต่ถ้าคราวหน้าไม่ผ่านอีกก็ต้องเลิกกันแล้ว เพราะคุยกันหลายครั้งเกินไปไม่ได้ คงไม่ดันทุรังต่อไป หาทางขยายธุรกิจด้วยวิธีอื่น ต้องเปลี่ยนเป้าหมายแล้ว"
*หากสภาพธุรกิจยังไม่เปลี่ยนแปลงจะมีผลอย่างไรกับการดำเนินงานปี 52
"ด้วยโครงสร้างรายได้ที่เป็นอยู่ ขนาดธุรกิจเล็กเกินไป แต่ในเมื่อผู้ถือหุ้นไม่รับก็ต้องรอ ผมว่ามันคงไม่ทำให้เราแย่ไปกว่านี้มากมายอะไร เพียงแต่ว่าเราก็ไม้เติบโตอย่างที่มันควรจะเป็น ปีนี้ก็คงขาดทุนต่อไป ส่วนปีหน้าก็ต้องอยู่ที่ว่าดีลที่เราทำสำเร็จมั้ย ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องหาธุรกิจอื่นกันต่อไป"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ