ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นธนาคาร หนุนฟุตซี่ปิดพุ่ง 205.6 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 เดือนเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศแผนเทคโอเวอร์กิจการแฟนนีเม และเฟรดดี แมค อย่างไรก็ตาม การซื้อขายในตลาด หุ้นลอนดอนวันจันทร์ต้องหยุดชะงักลงเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงเนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อในระบบ
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 205.6 จุด แตะที่ 5,446.3 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,240.7-5,447.6 จุด
          เจเวด์ อัฟซาร์ นักวิเคราะห์จาก Securequity Ltd. กล่าวว่า "หุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นหลังจากมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐวางแผนเข้าเทคโอเวอร์ แฟนนี เม และ เฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้าน โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยพยุงสถาบันการเงินทั้งสองให้พ้นภาวะล้มละลาย และปกป้องตลาดที่อยู่อาศัยไม่ให้ได้รับความเสียหายมากไปกว่านี้
          ทั้งนี้ หุ้นธนาคาร HSBC พุ่งขึ้น 5.9% หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดีดขึ้น 11% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปิดบวก 12%
          หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องพายุเฮอริเคนไอค์ โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 1.7% หุ้นรอยัล ดัทช์  เชลล์ดีดขึ้น 2.8% หุ้นบีจี กรุ๊ปทะยานขึ้น 3.2% หุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จีพุ่งขึ้น 4.2% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์พุ่งขึ้น 5.8%
          ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาโลหะ โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตันพุ่งขึ้น 3.3% หุ้นริโอ ตินโต ดีดขึ้น 4.1% หุ้นแองโกล อเมริกันทะยานขึ้น 4% หุ้นเอ็กซ์สตราตา ดีดขึ้น 4.0% และหุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซสพุ่งขึ้น 3.6% 
          หุ้นสายการบินบริติช แอร์เวย์ ดีดขึ้น 3.3% หลังจากมีรายงานว่าสายการบินบรัสเซลส์ แอร์ไลนส์ กำลังพิจารณาเทคโอเวอร์กิจการบริติช แอร์เวย์