(เพิ่มเติม) บล.โกลเบล็ก ตั้งเป้าปี 51 รักษามาร์เก็ตแชร์ที่ 1.4% แม้ภาวะไม่เอื้อ

          นายศราวุธ บุษยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่ 1.4% แม้ว่าภาวะตลาดหุ้นในขณะนี้จะไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าที่ยังคงซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัท โดยปัจจุบันมีบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ(Active) 2 พันบัญชีจากทั้งหมด 7 พันบัญชี 
          ทั้งนี้ ในขณะนี้ปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่าต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท/วัน แต่ถือว่าไม่กระทบผลประกอบการของบริษัทมากนัก เนื่องจากบริษัทมีจุดคุ้มทุนในระดับการซื้อขายผ่านบริษัทที่ 7.5 พันล้านบาท/เดือน
          แต่บริษัทมีความกังวลเรื่องพอร์ตลงทุนของบริษัทที่ขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทไว้จำนวน 100 ล้านบาท แต่ลงทุนไปได้เพียง 10 ล้านบาทเนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไม่ดี ยังมีปัจจัยลบทั้งการเมืองและเศรษฐกิจๆ จึงทำให้บริษัทต้องระมัดระวังการลงทุนเพิ่มมากขึ้น และเป็นการลงทุนระยะสั้น แต่ยืนยันว่าพอร์ตลงทุนของบริษัทยังมีกำไร
          นายศราวุธ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะทำ 2 ธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) ในวันที่ 22 กันยายน หลังจากที่บริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ปี 2552 อยู่ที่ 1% และจะเพิ่มเป็น 1.5-2% ในอีก 1-2 ปีต่อไป 
          ทั้งนี้บริษัทเตรียมที่จะดึงลูกค้าอนุพันธ์ของบล.โกลเบล็ก กลับเข้ามาซื้อขายกับบริษัท จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทยังไม่ได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจอนุพันธ์ บริษัทได้มีการให้ลูกค้าไปเปิดบัญชีซื้อขายกับบล.อื่น เช่น บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ฯลฯซึ่งมูลค่าการซื้อขายมากพอสมควร และบริษัทจะมีการเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีมูลค่าการซื้อขายที่สูง (Hi Network) ที่มีความสนใจในสินค้าใหม่ 
          สำหรับการที่บริษัทมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ทำธุรกิจซื้อขายทองคำรายใหญ่ของประเทศ นั้นจะช่วยสนับสนุนในการเข้ามาถ่ายทอดความรู้ในเรื่องการซื้อขายทองคำ ให้คำแนะนำในเรื่องทิศทางแนวโน้มราคาทองคำให้แก่พนักงานของบริษัท โดยบล.โกลเบล็กได้เสนอตัวเป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (มาร์เก็ตเมกเกอร์)ของการซื้อขายฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับทองคำ (Gold Futures) โดยบริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาเปิดบัญชีซื้อขาย Gold Futures กับบริษัทในเบื้องต้นประมาณ 100 บัญชี 
          ส่วนอีกธุรกิจคือ Private Fund ที่จะเริ่มให้บริการในต้นเดือนต.ค. โดยเน้นฐานลูกค้าที่มีขนาดการลงทุนขั้นต่ำ 5 ล้านบาท 
          "คาดว่าจะมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร ณ สิ้นปี 52 ที่ 300 ล้านบาท" นายศราวุธ กล่าว