TKS ปันระหว่างกาลงวด H1/51 ในอัตรา 0.011 บ. จ่าย 6 ต.ค.

          บมจ. ที.เค.เอส. เทคโนโลยี (TKS) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานของบริษัท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2551 โดยกำหนดจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ จำนวน 2,321,318,400 หุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.011 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 25,534,502.40 บาท 
          โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 25 กันยายน 2551 และให้รวบรวมรายชื่อ ตาม ม.225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 26 กันยายน 2551 โดยบริษัทกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 ตุลาคม 2551 และอนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิ จำนวน 2,349,189.76 บาท ไว้เป็นทุนสำรองตามกฎหมาย
          “สำหรับปีนี้ถือเป็นปีที่สองแล้วที่ TKS ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เนื่องจากเห็นว่าผลงานในครึ่งปีแรกอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน คณะกรรมการจึงได้ตัดสินใจจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เพื่อจะได้ไม่ต้องรอรับเงินปันผลในงวดประจำปีเพียงงวดเดียว ประกอบกับในปีนี้บริษัทฯ ยังไม่มีแผนจะลงทุนที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก จึงสามารถนำกำไรมาจ่ายเป็นเงินปันผลได้ และการปันผลบ่อยขึ้น นอกจากจะตอบแทนผู้ถือหุ้นแล้ว คาดว่าจะจะทำให้หุ้น TKS ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น ในฐานะหุ้นปันผลที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการดีต่อเนื่อง และธุรกิจมีทิศทางเติบโตทุกปี” นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ TKS กล่าว 
          ส่วนแนวโน้มธุรกิจในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี TKS ยังมุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มสิ่งพิมพ์ ยังมุ่งคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในงานพิมพ์ทั่วไปเอาไว้ ในขณะเดียวกันขยายเข้าสู่ธุรกิจด้านงานพิมพ์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสูงเพิ่มขึ้น อาทิ งานพิมพ์ปลอดการทำเทียม งานพิมพ์ดิจิตอล และงานบริหารคลังสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนและเทคโนโลยีระดับสูง ทำให้คู่แข่งมีน้อยการแข่งขันจึงไม่รุนแรงมากนัก ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าดังกล่าวอยู่ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับสิ่งพิมพ์แบบเดิม โดยในครึ่งหลังของปีนี้ TKS จะมุ่งขยายงานพิมพ์เทคโนโลยีระดับสูงออกสู่ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากที่เทคโนโลยีการผลิตงานพิมพ์ของบริษัทฯ ได้มาตรฐานในระดับสากล และลูกค้ามั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัย หลังจากที่ได้เข้ามาเห็นระบบการทำงานในโรงงานแห่งใหม่ โดยเชื่อว่าหลังจากที่บริษัทฯ หันมารับงานพิมพ์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น จะทำให้งานดังกล่าวเติบโตอย่างชัดเจนตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป