ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นการเงิน ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 47.8 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดทุนและยังไม่สามารถระดมทุนได้ 
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 47.8 จุด แตะที่ 5,318.4 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,258.1-5,377.9 จุด
          นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 3 ของสหัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมียอดขาดทุนไตรมาส 3 มูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทมานานถึง 158 ปี เนื่องจากบริษัทต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี 5.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เลห์แมน ยังไม่ข้อมูลที่ชัดเจนว่าเลห์แมนจะสามารถระดมทุนใหม่ได้
          ข่าวในด้านลบของเลห์แมน บราเธอร์ ได้ฉุดหุ้นกลุ่มกาเงินร่วงลง โดยหุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 2.1% หุ้นบาร์เคลย์ส ร่วงลง 2.5% หุ้นรอยัล  แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 3.8% หุ้น HBOS ร่วงลง 4.1% และหุ้นลอยด์ส ทีเอสบี ดิ่งลง 4.3%
          หุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง โดยหุ้นมอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ดิ่งลง 6.1% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกของบริษัท ขณะที่หุ้นโฮม รีเทลดิ่งลง 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสองที่ต่ำเกินคาด ส่วนหุ้นคิงฟิชเชอร์ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปดิ่งลง 5.4 % หลังจากนักวิเคราะห์ของ เบอร์สไตน์ ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
          นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ ประกาศแผนการมูลค่า 910 ล้านปอนด์ หรือ 1.6 พันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยครอบครัวชาวอังกฤษจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
          ในระหว่างการแถลงข่าวรายเดือนต่อผู้สื่อข่าว บราวน์ประกาศมาตรการให้ความช่วยเหลือชาวอังกฤษ 10 ล้านครัวเรือน ซึ่งรวมถึงการลดค่าฉนวนกันความร้อนสำหรับทุกครัวเรือนลง 50% และงดเก็บบิลค่าพลังงานในปีนี้สำหรับครอบครัวที่ยากจน ขณะที่ผู้รับเงินบำนาญและครอบครัวที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 5 ขวบจะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ 16.50 ปอนด์ (29 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อสัปดาห์ ถ้าอากาศหนาวรุนแรง
          การประกาศของนายกฯอังกฤษมีขึ้นหลังจากที่สมาพันธ์การเคหะแห่งชาติได้เปิดเผยข้อมูลว่า ชาวอังกฤษเกือบ 2.5 ล้านครัวเรือน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด จะขาดแคลนพลังงาน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีรายได้ต่ำจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก