ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากที่ตลาดเคลื่อนตัวอย่างผันผวน โดยหุ้นพลังงาน สาธารณูปโภคที่ปรับตัวขึ้นช่วยชดเชยความวิตกกังวลในตลาดเรื่องเลห์ แมน บราเธอร์สได้ในระดับหนึ่ง
ปัญหาในกลุ่มหุ้นไฟแนนซ์เป็นปัจจัยที่ครอบงำการซื้อขาย ขณะที่นักลงทุนจับตาการขายหุ้นของเลห์แมนอย่างใกล้ชิด และการที่หุ้นของเลห์แมนร่วงหนักยิ่งทำให้ผู้บริหารของวาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐต้องเร่งหาแหล่งเงินสดใหม่อย่างเต็มที่
หุ้นเลห์แมน ดิ่งลงถึง 42% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และร่วงลงกว่า 94% แล้วในปีนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้นเลห์แมนร่วงลง 57 เซนต์ หรือ 13.5% แตะ 3.65 ดอลลาร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 11.72 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 11,421.99 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.65 จุด หรือ 0.21% แตะที่ 1,251.70 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 3.05 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 2,261.27 จุด
ไรอัน ลาร์สัน เทรดเดอร์อาวุโสของโวยาเจอร์ แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กล่าวว่า ตลาดคาดว่า เลห์แมนจะสามารถทำข้อตกลงได้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เลห์แมน รัฐบาล และธนาคารรายอื่นๆต่างปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการขายหุ้น แต่ผู้บริหารในแวดวงธนาคารต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เลห์แมนกำลังพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ซื้อหุ้นขององค์กร เมื่อมีการทำข้อตกลงกันได้ ตลาดก็จะหันไปสนใจว่าแล้ววาณิชธนกิจรายใดจะเป็นเหยื่อรายต่อไป
ความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นกล่มไฟแนนซ์ในสัปดาห์นี้ หุ้นเอไอจี ร่วงกว่า 30% แตะ 12.14 ดอลลาร์
หุ้นเมอร์ริล ลินช์ ตกลง 12.3% และหุ้นวอชิงตัน มูชวล อิงค์ ปรับตัวลง 3.5%
นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดเคลื่อนตัวอย่างผันผวน หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้รายงานตัวเลขยอดขายปลีก ซึ่งทำให้นักลงทุนหันมาระมัดระวังการซื้อขายหุ้นกลุ่มผู้ค้าปลีก ส่งผลให้หุ้นเมซี่ อิงค์ ตกลง 4.8% ส่วนหุ้นเบสท์ บาย ร่วง 3.3%
หุ้นเอ็กซอน โมบิล บวก 2.6% และหุ้นอัลโค อิงค์ ดีดขึ้น 3.8%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--