ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) นับเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน เนื่องจากหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์และไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้น จากปัจจัยราคาโลหะที่ทะยานขึ้นส่งผลให้แนวโน้มรายได้ของบริษัทเหมืองสดใส ประกอบกับมีการคาดการณ์มากขึ้นว่า เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐจะมีผู้ซื้อกิจการไป
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเหมืองรายใหญ่ที่สุดในโลก ดีดขึ้น 7.4% แตะ 1,509 เพนซ์ และดึงให้หุ้นบริษัทผู้ผลิตวัตถุดิบปรับตัวขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากราคาทองแดงปรับตัวสูงขึ้น ส่วนหุ้นบาร์เคลยส์ บวก 3.6% และหุ้นโรยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ กรุ๊ป บวก 2.4%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 98.3 จุด หรือ 1.9% แตะที่ 5,416.7 จุด
จอห์น เมเยอร์ หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรของแฟร์แฟ็กซ์ ไอ.เอส. พับลิค กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเหมืองกำลังฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากราคาต่อรองมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นริโอทินโต กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก พุ่ง 8% แตะ 4,490 เพนซ์ โดยราคาทองแดงดีดขึ้นถึง 2.6% แตะ 7,110 ดอลลาร์ต่อตันในตลาด LME ส่วนทองคำและพลาตินัมก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
หุ้นบาร์เคลย์ส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอังกฤษ ดีดขึ้น 3.6% หุ้นโรยัลแบงค์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 บวก 2.4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--