นายสมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. สตาร์ ซานิทารีแวร์ (STAR) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินสินทรัพย์ที่เป็นโรงงานการผลิต ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีมูลค่าสูงขึ้น โดยไม่รวมมูลค่าของแบรนด์ STAR ซึ่งได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในตลาดเมืองไทยและตลาดต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งถือว่ามูลค่าสูงกว่าทุนจดทะเบียนค่อนข้างมาก ซึ่งหลังจากการลดทุนบริษัทมีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 119 ลบ. โดยเป็นทุนเรียกชำระแล้ว 95.20 ลบ.
ในขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นบนกระดานเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book value) ซึ่งอยู่ที่ 1.66 บาท ในขณะที่แนวโน้มธุรกิจยังเติบโตได้ดี คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้น จากปีก่อนที่ทำได้ 220 ลบ. จึงทำให้ STAR ยังเป็นหุ้นที่เหมาะสมกับการลงทุนเพื่อหวังผลระยะยาว ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้จะมีนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนระยะยาวสนใจเข้ามาลงทุนใน STAR มากขึ้น
' "ราคาหุ้นเราตอนนี้ถือว่าต่ำที่สุดตั้งแต่เข้าตลาดฯมา ต่ำกว่ามูลค่าต่อหุ้นตามบัญชีที่ 1.66 บาท มากๆ และถ้าจะมองในเชิงสินทรัพย์ที่ต้องลงทุนของผู้ประกอบการที่เข้ามาใหม่ จะต้องใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ถ้าตีตามมูลค่าหุ้นบนกระดานจะมีมูลค่า ประมาณ 130 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งการที่ราคาหุ้นปรับลงต่ำมากจนเกินไป ถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนอย่างแท้จริงไม่ใช่ซื้อหุ้นเพื่อการเก็งกำไร เพราะในระยะยาวผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนจะคุ้มค่าตามการเติบโตจริงของยอดขายและกำไรของบริษัทฯ" นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551ได้อนุมัติลดทุนชำระแล้วจำนวน 40.80 ล้านบาท จากทุนชำระแล้วเดิมจำนวน 136 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้วจำนวน 95.20 ล้านบาท โดยวิธีลดมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) จากเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.70 บาท เพื่อนำส่วนเกินทุนที่เกิดจากการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ต่อหุ้นจำนวน 40.80 ล้านบาท ไปหักกลบกับผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ ที่มีอยู่ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 จำนวน 41.86 ล้านบาท ทำให้มีขาดทุนสะสมคงเหลือจำนวน 1.06 ล้านบาท
นายสมชัยกล่าวว่าการดำเนินการลดทุนดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อจำนวนหุ้น(จำนวนหุ้นยังคงเท่าเดิม) และมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นของบริษัทฯ ดังนั้น หากในอนาคตบริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีจะส่งผลให้มูลค่าทางบัญชีเพิ่มขึ้น และทำให้บริษัทฯ สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ นอกจากนี้ การดำเนินการลดทุนดังกล่าวก็จะไม่ส่งผลกระทบที่ทำให้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัทฯ (STAR-W) เปลี่ยนแปลงไป บริษัทฯ จึงไม่จำเป็นต้องมีการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิสำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นดังกล่าว
"หลังจากล้างขาดทุนสะสมจากการลดมูลค่าหุ้นลง 40.80 ล้านบาท จะทำให้ STAR มีขาดทุนสะสมเหลือเพียง 1.06 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถนำกำไรสุทธิมาล้างได้หมดภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ STAR กลายเป็นบริษัทฯ ปลอดขาดทุนสะสม อีกทั้งยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ทันทีหากผลการดำเนินงานมีกำไรสุทธิ" นายสมชัยกล่าว
ในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะระดมทุนในลักษณะต่างๆ เพื่อขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัวหากมีความจำเป็น การล้างขาดทุนสะสมครั้งนี้จึงถือเป็นเรื่องที่ดี และคาดว่าหลังจากนี้จะมีนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจมาลงทุนยาวใน STAR เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันถือว่าธุรกิจยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี ผลประกอบการเป็นกำไรต่อเนื่อง สินทรัพย์มีมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับทุนจดทะเบียน และประการสำคัญขณะนี้ราคาหุ้นของ STAR ลดต่ำลงมามากตามดัชนีฯ ที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงในช่วงก่อนหน้านี้
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/เสาวลักษณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--