GFPT คาดรายได้-กำไรใน H2/51 สูงกว่า H1/51 จากปริมาณ-ราคาไก่สอ.เพิ่ม

          บมจ.จีเอฟพีที(GFPT)คาดในช่วงครึ่งหลังปี 51 รายได้และกำไรสุทธิจะดีกว่าครึ่งแรกของปีนี้ที่มีรายได้ 4.9 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 343.13 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณและราคาไก่ปรุงสุกหรือไก่แปรรูปส่งออกสูงขึ้น รวมทั้งได้เงินบาทอ่อนค่าหนุน ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีรายได้จะโต 15-20% จากปีก่อน 8.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะเพิ่มเป็น 4-5% จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 3% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว 
          "แนวโน้มการส่งออกปีนี้จะมากขึ้น ส่งออกได้เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน จากเดิมที่วางแผนไว้ 10% โดยสิ้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนส่งออก 20% ของรายได้ ครึ่งปีหลังก็น่าจะมีสัดส่วน 20% เช่นเดียวกัน รายได้ครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่า"นส.จุฑามาส อิงโพธิ์ชัย ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ GFPT กล่าวกับ"อินโฟเควสท์" 
          ในปีนี้รายได้จะเติบโต 15-20% ปรับขึ้นมาจากต้นปีที่คาดว่าจะเติบโต 10% โดยในประมาณการคาดว่าว่าจะมีรายได้ที่ 1 หมื่นล้านบาท และทั้งปี 51 อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin)ประมาณ  4-5% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 3% เป็นเพราะปีนี้อัตรากำไรขั้นต้น หรือมาริ์จิ้นขยายตัวมาที่ 15% จากปีก่อนที่มีประมาณ 8% 
          "มาร์จิ้นปีนี้เราโตที่ 15% ซึ่งถือว่าโตตั้งแต่มีไข้หวัดนกเมื่อปี 47 ก็ถือว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีที่สุดปีหนึ่ง จริงๆแล้ว ดีเทียบได้เท่ากับปี 45 ในแง่อัตรากำไรขั้นต้น"นส.จุฑามาส กล่าว 
          ปัจจัยสำคัญทำให้รายได้เติบโตและมีอัตรากำไรสุทธิดีขึ้นมาจากยอดส่งออกเพิ่มขึ้น โดยมียอดส่งออกไก่ปรุงสุกเฉลี่ย 1,200 ตัน/เดือนในครึ่งปีแรก แต่ในช่วงครึ่งปีหลังคาดจะส่งออกได้ 1,500 ตัน/เดือน เพิ่มจากประมาณการเมื่อต้นปีที่ 1,200 ตัน/เดือน 
          เนื่องจากส่งออกได้ปริมาณเพิ่มขึ้นในตลาดเดิม ที่เป็นตลาดหลักทั้งตลาดยุโรปและญี่ปุ่น และในปีนี้บริษัทมีกำลังการผลิตไก่ปรุงสุกเพิ่มขึ้นที่ได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 30-40% ช่วยรองรับกับออเดอร์ส่งออก
          ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทมีกำลังการผลิตไก่ปรุงสุก 1,500 ตัน/เดือน จากปีก่อนที่มีกำลังการผลิต 1,000 ตัน/เดือนโดยปีนี้จะพยายามเต็มกำลังการผลิต จากยอดผลิตเต็มกำลังการผลิต 1,800 ตัน/เดือน จากโรงงานผลิตไก่ปรุงสุกมี 2 โรงที่เริ่มในปีนี้ 
          นอกจากนี้ เงินบาทอ่อนตัวช่วยส่งผลดีด้วยจากประมาณการของบริษัทมองอัตราแลกเปลี่ยนไว้ 33 บาท/ดอลาร์ แต่ขณะนี้เงินบาทอ่อนตัวลงมากว่า 34 บาท/ดอลลาร์ ก็จะช่วยรายได้เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง 
*Q3/51 ใกล้เคียง Q2/51 เจอเทศกาลกินเจ
          ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ GFPT กล่าวว่า ในไตรมาส 3/51 รายได้น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2/51 ที่มี 2,622 ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นช่วงเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งมีความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ลดลง ขณะที่ไตรมาส 2/51 มีผลประกอบการที่ดีขึ้น 
          "เหตุผลที่คิดว่ารายได้ในไตรมาส 3 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 เพราะว่าในเดือน ส.ค.ตลาดยุโรปทรงตัว แต่ก็ไม่กระทบมาก เพราะตลาดญี่ปุ่นมีคำสั่งเพิ่มขึ้น รวมทั้งไตรมาสนี้มีช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้ระดับการขายทรงตัว"นส.จุฑามาศ กล่าว 
          นอกจากนี้ ราคาส่งออกในไตรมาส 3/51 ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/51 โดยราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังคงเป็นราคาเดิม แต่การปรับตัวลดลงของราคาวัตถุดิบจะสะท้อนในไตรมาส 4/51 
          ส่วนราคาขายไก่เป็นในประเทศได้ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 42-43 บาท/กก.ในขณะนี้ เนื่องจากราคาวัตุถุดิบเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ต้นทุนการผลิตไก่สดที่ระดับ 42 บาท/กก. ดังนั้น การขายในประเทศจึงไม่ค่อยได้กำไร บริษัทจึงลดสัดส่วนขายภายในประเทศปีนี้ลดลง 65% จากปีก่อนอยู่ที่ 70% 
          ขณะที่ภาพรวมในปีนี้คาดว่ายอดส่งออกจะอยู่ที่ 3.5 แสนตัน เพิ่มขึ้น 6-7% จากปีก่อน และ GFPT มีอัตราการส่งออกเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมอยู่แล้ว โดย GFPT เป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่อันดับ 5 ของประเทศ