บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์(THL) เปิดเผยว่า บริษัท และ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด(บริษัทย่อย) ได้เสนอคดีต่อศาลปกครองขอนแก่นเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอน ระเบียบ และ คำสั่ง ของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและคำสั่งของปฏิรูปที่ดินจังหวัดเลยที่แจ้งให้บริษัทฯ ชำระค่าตอบแทนการใช้ที่ดินส่วนที่ทำเหมืองแร่ ส่วนที่ 2
เนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2550 ปฎิรูปที่ดินจังหวัดเลย ได้มีหนังสือแจ้งให้ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ชำระค่าตอบแทนการใช้ที่ดินส่วนที่ 2 ตามบัญชีค่าตอบแทน ซึ่งเป็นเงินเท่ากับการเก็บค่าภาคหลวง ระหว่างเดือน มกราคม ถึง พฤศจิกายน 2550 เป็นเงิน 14,563,336.09 บาท
บริษัทฯ เห็นว่าการเรียกเก็บเงินดังกล่าวเป็นภาระเกินควรและไม่เป็นธรรมแก่บริษัทฯ เป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเสียค่าภาคหลวงซ้ำซ้อน และเป็นค่าตอบแทนที่สูงเกินควร บริษัทฯ จึงได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการ เพราะเป็นการเสียค่าภาคหลวงซ้ำซ้อน และเป็นค่าตอบแทนที่สูงเกินควร
บริษัทฯ จึงได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2551 ว่า บริษัทฯ จะดำเนินการเสนอคดีนี้ต่อศาลปกครองต่อไป โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท THL ได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินการได้ครั้งที่ 6/2008 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2551 ว่า บริษัทฯ จะดำเนินการเสนอคดีนี้ต่อศาลปกครองต่อไป โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินการได้
ทั้งนี้ ในวันที่ 5 พฤศิจกายน 2534 THL และบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้เข้าทำสัญญาว่าด้วยการสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำ กับกระทรวงอุตสาหกรรม ต่อมากรมทรัพยากรธรณีได้ออกอาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำให้แก่ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด จำนวน 34 แปลง คลุมพื้นที่ 335,672ไร่ ในเขตอำเภอเมือง วังสะพุง ท่าลี่ และภูเรือ จังหวัดเลย และในวันที่ 28 กันยายน 2538 บริษัท ทุ่งคำ จำกัดได้ยื่นคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำชุดแรก จำนวน 6 แปลง
และ มติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์.2542 ได้ออกระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พร้อมบัญชีค่าตอบแทน โดยกำหนดค่าตอบแทนในการทำเหมืองแร่เป็นสองส่วน โดยส่วนที่ 1 คิดอัตราร้อยละ 2 ของราคาที่ดิน คูณจำนวนปีที่ใช้ประโยชน์ที่ดิน และ ส่วนที่ 2 จำนวนเงินเท่ากับการเก็บค่าภาคหลวงแร่ที่ผู้ถือประทานบัตรชำระให้แก่ทรัพยากรธรณีประจำท้องที่
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--