ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังได้รับแรงกดดันจากจากปัจจัยลบต่างประเทศ กรณีที่วาณิชธนกิจชั้นนำที่เก่าแก่ของสหรัฐอย่างเลห์แมน บราเธอร์ส เพิ่มทุนไม่สำเร็จ โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังและเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ได้จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือถึงทางออกของเลห์แมนฯ ที่ก่อตั้งมานานถึง 158 ปี หลังจากเลห์แมนขาดทุนอย่างหนักถึง 3.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งอาจนำไปสู่การประกาศล้มละลาย
แม้ว่าปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะในด้านการเมืองจะมีการคลี่คลายลงบ้างบางประเด็น หลังจากประกาศยกเลิกบังคับใช้พ.ร.ก.การบริหารราชกการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่ กทม. อย่างไรก็ตาม ต้องรอวันพุธนี้จะรู้ตัวนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของไทย
เมื่อเวลา 11.05 น. ดัชนี SET เคลื่อนไหวอยู่ที่ 644.29 จุด ลดลง 10.05 จุด (-1.54%)
น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงจากปัจจัยต่างประเทศ กังวลเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐ อาจจะล้ม
จากที่มองว่าข่าว เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินน่าจะเป็นบวกกับตลาดหุ้นไทยแต่ปรากฎว่าความกังวลเรื่องของสหรัฐมีมากกว่า เพราะแม้ว่า หาคนซื้ออยู่ แต่เห็นมีแต่ปฏิเสธ
"หุ้นลงปัจจัยหลักมาจากเรื่องตลาดสหรัฐเพราะทุกคนมองว่าเลห์แมนฯค่อนข้างใหญ่ อายุ 150 กว่าปี มองว่าใหญ่มากต่างประเทศที่กังวลถ้าล้มอิมแพ็คจะมีต่อเนื่อง" น.ส.ศศิกร กล่าว
ทิศทางช่วงบ่ายคงไม่ได้ดีขึ้น แต่ตอนนี้มองปัจจัยภายนอกมีน้ำหนักมากกว่าภายในประเทศเพราะภายในระยะสั้นดูดีขึ้นและน่าจะขยับตัวได้ คือ รอสรุปเรื่องนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รอเรื่องแรงต้านพันธมิตร และเรื่องประชุมงบประมาณจะประชุมหรือไม่เพราะขอเลื่อนกันอยู่
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.24 น.ดัชนีอยู่ที่ 645.66 จุด ลดลง 8.68 จุด (-1.33%)
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--