(เพิ่มเติม) ดัชนี SET ร่วง 2% วิกฤตเลห์แมนฯกระเทือนหนัก, เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไม่มีผล

          ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงต่อเป็น 2% ไร้แววฟื้นแม้ทางการจะประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่กลับไม่มีผลบวกต่อการซื้อขายหุ้น เนื่องจากความกังวลวิกฤติของเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจชั้นนำเก่าแก่ของสหรัฐที่ส่อเค้าส่งผลกระทบวงกว้างทั่วโลก ส่งผลตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่วันนี้ร่วงเป็นแถว 
          นอกจากนี้ ยังมีกรณีของ AIG หรือ American International Group Inc.  ซึ่งประกอบธุรกิจหลักคือประกันภัย ซึ่งมีลูกค้าประมาณ 74 ล้านรายในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก และเป็นบริษัทแม่ของ AIA หรือ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล แอสชัวรันซ์  ก็กำลังประสบปัญหาดังเช่นสถาบันการเงินอื่นๆในสหรัฐฯ ด้วย
          ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.56 น.ดัชนีอยู่ที่ 640.64 จุด ลดลง 13.70 จุด(-2.09%)
          นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้วิตกกังวลในเรื่องของปัญหาภาคการเงินของสหรัฐโดยเฉพาะในส่วนของเลห์แมนฯ เนื่องจากตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีคนที่จะเข้าซื้อกิจการ จึงคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะมีมาตรการฉุกเฉินเข้ามาช่วยเหลือ ขณะที่เลห์แมนฯ ก็เตรียมยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลายเป็นประเด็นที่ทำให้สถานการณ์ของนักลงทุนหวาดวิตกและส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดหุ้นทั่วโลก 
          ขณะที่การประกาศยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกาศออกมากลายเป็นเรื่องเสียของทันทีเมื่อเจอกับข่าวปัจจัยลบจากต่างประเทศที่ปะทุขึ้นมา เพราะส่งผลให้สถาบันการเงินหลายแห่งเริ่มที่จะปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลง ล่าสุด คาดว่า UBS จะต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลงอีก 5 พันล้านดอลลาร์ในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีผลต่อเนื่อง
          นอกจากนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นของเลห์แมนฯ เองได้สร้างปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนคือเรื่องของแบงก์ 10 แห่งของโลกมีการระดมเงินทุนเพื่อที่จะเข้ามาโอบอุ้มในส่วนของสถาบันการเงิน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของทั้งยอดค้าปลีก และยอดส่งออกของสหรัฐตอนนี้ตกต่ำลง เป็นการการสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าภาวะถดถอยเต็มตัว กลายเป็นประเด็นที่ส่งผลให้เกิดกระแสข่าวลือต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น เฟดอาจมีการประชุมฉุกเฉินและประกาศลดดอกเบี้ย 
          ข่าวที่แพร่กระจายตอนนี้สร้างความไม่แน่นอนต่อตลาดส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปที่เปิดมาร่วงลงค่อนข้างหนัก ขณะที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ฟิวเจอร์สของสหรัฐก็ปรับตัวลดลง ประเด็นตรงนี้กดดันทำให้ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายขายเทกระจาด เนื่องจากมองว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะทำให้นักลงทุนต่างชาติขายสินทรัพย์ที่มีกำไรออกมา เห็นชัดเจนจากราคาน้ำมันที่หลุดระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทองคำก็ทรุดตัวลดลง หากยังขายต่อเนื่องทั่วโลกก็แน่นอนน่าจะทำให้ตลาดหุ้นทั้งภูมิภาคปั่นป่วนในช่วงนี้ 
          ขณะนี้ให้แนวรับไว้ที่ 642 จุด ถ้าหลุดรอบนี้อาจลงไประดับ 630 จุด