MAJOR ลดเป้ารายได้ปี 51 เหลือโต10-15% จากเดิม 20-30%,ลดงบลงทุนแกือบครึ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 16, 2008 13:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวิชา พลูวรลักษณ์  ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทปรับลดเป้ารายได้ลงเหลืออัตราเติบโต 10-15% จากเดิมที่ประมาณการไว้จะเติบโต 20-30% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากภาพยนตร์ได้เลื่อนฉายออกไปจากกำหนดเดิม โดยเฉพาะในเดือนส.ค.มีภาพยนตร์มีออกมาฉายน้อย แต่ในไตรมาส 4 จะมีภาพยนต์จะมีเข้ามาฉายมากขึ้น ได้แก่ องค์บาก 2, หลวงพี่เท่ง, โจรสลัดปืนใหญ่, เจมส์บอนด์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ภาพรวมของบริษัทยังมีทิศทางที่ดี  
แต่ยอมรับว่า การเติบโตของรายได้ในไตรมาส 3/51 จะไม่ค่อยดี โดยคาดว่าจะโตขึ้น 5-10% จากไตรมาส 3/50 เพราะมีภาพยนตร์เข้าฉายน้อย แต่ในส่วนของธุรกิจโบลลิ่งยังมีอัตราเติบโตที่ดี ซึ่งในเดือน ส.ค. โต 18% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
"พื้นฐานของบริษัทยังดีอยู่ คนยังเข้ามาดูหนังเหมือนเดิม เพียงแต่ว่า จำนวนหนังยังมีน้อย และบางเรื่องก็เลื่อนไปฉายในปีหน้า แต่คนที่เข้ามาเล่นโบว์ลิ่งยังเพิ่มขึ้น ธุรกิจของเรา เป็น Low Consumption จึงได้รับผลกระทบน้อยจากปัญหาการเมือง" นายวิชากล่าว
สำหรับเงินลงทุนในปีนี้ ยอมรับว่า ใช้จริงพียง 600 ล้านบาทที่เป้าหมายที่วางไว้ 1,000 ล้านบาท เนื่องจาก โครงการขนาดใหญ่ เช่น เมเจอร์สาขารัตนาธิเบศร์ เลื่อนเปิดตัวไปปีหน้าจากเดิมจะเปิดภายในปีนี้ แต่งบการลงทุนในสาขารัตนาธิเบศร์ยังคงอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ