โบรกฯ เตือนรอจังหวะเข้าซื้อ PTT แม้ราคาจูงใจ หลังมองตลาดรวมยังเป็นขาลง

          โบรกเกอร์ต่างแนะนำหาจังหวะเข้าลงทุนหุ้น บมจ.ปตท.(PTT)เชื่อราคาน่าจะต่ำลงไปอีกตามตลาดรวมที่ยังมองว่าเป็นขาลงจากผลกระทบวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐที่ล่าสุดมีกรณีของเลห์แมน บราเธอร์ส เพราะอย่างไรแล้วปัจจัยพื้นฐานหุ้น PTT ยังดีมาก แม้ว่าราคาน้ำมันโลกจะปรับตัวลงไปช่วงนี้ แต่เฉลี่ยทั้งปีราคาน้ำมันไม่น่าจะต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และธุรกิจน้ำมันก็ไม่ใช่เป็นรายได้หลักของ PTT 
          ราคาหุ้น PTT ปิดเช้าที่ 226 บาท ลดลง 12 บาท(-5.04%)และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 222 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำสุดในรอบ 1 ปี 2 เดือน อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์มองว่าหากบริษัทมีโครงการรับซื้อหุ้นคืนจริงอาจทำให้ผู้ถือหุ้นไม่พอใจ
          โบรกเกอร์           คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) 
          บล.กสิกรไทย          ซื้อ                484
          บล.เคจีไอ            ซื้อ                430
          บล.กิมเอ็ง            ซื้อ                400
          บล.บัวหลวง           ซื้อ                380
          บล.ไซรัส             ซื้อ                358
          นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หากพิจารณาเฉพาะตัวบริษัท ยอมรับว่าราคาหุ้น PTT ขณะนี้ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งหุ้นในตลาดหลายตัวก็น่าซื้อหมด ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวลงมาก็ไม่ได้มีผลต่อราคาพื้นฐาน เพราะเราประเมินบนราคาน้ำมันที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว แต่ปัจจัยที่ต้องติดตามคือภาพรวมตลาดหุ้น และเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก 
          "ถ้าให้มองว่าจะซื้อ PTT หรือเปล่า เอาทุกอย่างเข้ามาประกอบ ผมว่าตลาดหุ้นยังรอได้ ยังไม่จำเป็นต้องรีบซื้อตอนนี้ แม้ว่าราคาจะลงมาถูกแล้วก็ตาม แต่ถามว่าน่าซื้อไหม ก็น่าซื้อ ก็รอเวลาเมื่อตลาดลงมา"นายกวี กล่าว 
          นายกวี มองว่าสถานการณ์วิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐยังไม่จบ จึงคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาลงต่อไปอีก โดยมองแนวรับดัชน SET ที่ 618 จุด ซึ่งตลาดลงมาระดับต่ำสุดในระดับดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นแนวรับที่มีนัยสำคัญ แต่ถ้าหากหลุดไปก็มีแนวรับถัดมาที่ 587 จุด  
          เช่นเดียวกับนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง เห็นว่า นักลงทุนควรรอจังหวะเข้าซื้อหุ้น PTT เนื่องจากตลาดภาพรวมยังไม่นิ่ง ควรรอให้ภาพการเมืองชัดกว่านี้ และรอสถานการณ์ในสหรัฐให้นิ่งก่อน 
          นอกจากนี้ ยังมองว่าราคาน้ำมันโลกยังปรับตัวลงไปอีก โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะลงไปถึง 80 เหรียญ/บาร์เรล ก็จะมีผลต่อมูลค่าหุ้นในกลุ่มพลังงานบ้าง เพราะรายได้จากธุรกิจน้ำมันของ PTT มีสัดส่วนไม่มากนัก 
          "ภาพตลาดรวมยังมีปัญหา ผมเห็นว่ายังไม่ใช่ Timing  ถ้าจะเข้าลงทุน ก็คงต้องรอ เพราะยังเป็น Bear Market แต่คิดว่า downside rik ไม่มาก ก็คิดว่าตลาดคงไม่ลงเยอะ  เพียงแต่ตอนนี้ตลาดสภาพคล่องหายไป เพราะตลาดไม่ค่อยดี คงต้องรอให้ปัญหาในสหรัฐเริ่มนิ่ง เพราะตอนนี้ sentiment ไม่อยากซื้อหุ้น "นายชัยพร กล่าว 
          ด้านนายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ มองว่า ตอนนี้เป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนหุ้น PTT ที่ปรับตัวลงไปกว่า 5% เทียบกับกลุ่มพลังงานลงไปกว่า 4% แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมากประมาณ  60 เหรียญ/บาร์เรล จากระดับสูงสุดที่ 147 เหรียญ/บาร์เรล และสภาพตลาดหุ้นโดยรวมยังได้รับผลกระทบจากปัญหาในสหรัฐ 
          "ระยะยาว หุ้นตัวนี้ก็ยังถือว่าเป็นหุ้นบลูชิพ...จังหวะตอนนี้เป็นจังหวะเข้าซื้อแน่นอน ตลาดหุ้นที่ลงมา 620"นายอดิศักดิ์ กล่าว 
          สำหรับปัญหาเลห์แมนฯ น่าจะอยู่ในวงจำกัดคงจะไม่ลามไปทั่วโลก โดยเชื่อว่าจะจบในสหรัฐ ดังนั้น ตลาดหุ้นไทยจะดีดขึ้นและค่อย ๆ ทรงตัวอยู่ได้อีกระยะหนึ่ง เพราะคิดว่าวันนี้หากเฟดปรับดอกเบี้ยลง ฉะนั้น ตลาดหุ้นจะลงมาต่ำกว่า 630 จุด พีอีเรโชที่ 9 เท่า โอกาสหาไม่ได้ง่าย ยกเว้นมีเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้ 
          อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วง  1-2 เดือน ดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งตัวระหว่าง 610-680 จุด และช่วงปลายปีตลาดหุ้นยังมีโอกาสปรับขึ้นไปถึง 750 จุด หรือ 805 จุด เพราะกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังค่อนข้างดี 
          แต่หาก PTT มีโครงการรับซื้อหุ้นคืน ถือว่าไม่ดีในแง่ผู้ถือหุ้น เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารไม่มีความสามารถที่จะนำเงินไปลงทุนเพื่อขยายกิจการ แต่กลับนำเงินมาลงทุนในหุ้นบริษัทตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี แทนที่จะได้เงินปันผลจากการทำกำไรได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่า PTT คงจะไม่ดำเนินการตามที่ผู้บริหารออกมาระบุ 
          ส่วนนายพงศ์พันธ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการฝ่ยวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)เห็นด้วย ที่เข้าลงทุนหุ้น PTT ในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลง ถือว่าราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก และหุ้น PTT เป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจ่ายเงินปันผลประมาณ 7% ต่อปี ซึ่งหุ้น PTT ถือว่าเป็นหุ้นที่มีน้ำหนักในตลาดหุ้นมากตัวหนึ่ง และนักลงทุนต่างชาติก็ถือมากในทางกลับกันก็เทขายออกมาในช่วงนี้