นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (ตลท.) กล่าวว่า กรณีปัญหาของเลห์แมน บราเธอส์ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน้อยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดัชนีปรับลงประมาณ 4% ขณะที่ที่ตลาดหุ้นไทยไม่ถึง 4% และเชื่อว่าจะมีผลกระทบในระยะสั้น
"เลห์แมนฯ ลงทุนในประเทศไทยน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ประเทศไทยโดยส่วนตัวกังวลเรื่องปัญหาการเมือง เนื่องจากวันพรุ่งนี้เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง และต้องการให้ปัญหาการเมืองแก้ไปอย่างราบรื่นและเป็นไปอย่างสมานฉันท์" นางภัทรียา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าจะมีสถาบันการเงินอื่นมีปัญหาอีกหรือไม่ เพราะตั้งแต่ต้นปีก็มีปัญหาของบริษัท Bear Stearns จากนั้นยังตามมาด้วย แฟนนี เม และเฟรดดี แมค
ส่วนบริษัทจดทะบียนในตลาดหุ้นไทยที่เกี่ยวข้องกับเลห์แมนฯ ถือว่าน้อยมาก และคาดว่าจะไม่มีบริษัทใดได้รับผลกระทบรุนแรง เพราะหากทางเลห์แมนฯ มีการขายหุ้นออกมาก็เชื่อว่าจะมีผู้พร้อมรับซื้อ เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนในไทยส่วนใหญ่มีผลประกอบการที่ดี และการเข้าซื้อหุ้นในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน
นางภัทรียา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตลท.มีการพิจารณาอนุมัติการลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม 5 แห่ง ซึ่งเป็นรูปแบบของแมทชิ่งฟันด์ โดยตลท.จะร่วมลงทุนกองทุนละ 100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของขนาดกองทุน โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ตลท.อนุมัติ 5 แห่ง ประกอบด้วย บลจ.อยุธยา, บลจ.ธนชาต, บลจ.กรุงไทย, บลจ.กสิกรไทย และ บลจ.ไอเอ็นจี ซึ่งภายหลังการอนุมัติสามารถเข้าลงทุนในตลาดหุ้นได้เลย ถือว่าเป็นช่วงเวลาเหมาะสม โดยจะมีการเซ็น MOU ในวันที่ 26 ก.ย.นี้
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--