ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน หวั่นวิกฤตการเงินยังมีต่อ-การเมืองยังอึมครึม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 17, 2008 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้ลงได้ sentiment ต่อจากวานนี้ ตลาดยังไม่ได้ดีขึ้นเพียงแต่ก่อนปิดตลาดวานนี้เริ่มรีบาวน์ขึ้นมาบ้าง แต่วันนี้ถ้าจะมีการรีบาวน์ให้ขายและรอรับต่ำ เพราะยังไม่ค่อยไว้ใจตลาดเพราะยังมีปัญหาในเรื่องของนอกจากเลห์แมนฯแล้วก็ยังมีวาณิชธนกิจอื่นๆ อีกหรือไม่ ขณะที่ดาวโจนส์บวกเล็กน้อย 
ส่วน FED ตัดสินใจให้วงเงินกู้ฉุกเฉิน 8.5 หมื่นล้านดอลล์ พยุงกิจการ AIG คิดว่า AIG ไม่น่าที่จะมีปัญหามากเท่าเลห์แมนฯ อย่างไรก็ตาม ตรงนี้อยู่ที่เรื่องของความเชื่อมั่นแล้ว เงินฉุกเฉินก็เป็นการช่วยเหลือที่ดี ขณะที่เฟดประกาศตรึงดอกเบี้ย 2% ตลาดค่อนข้างจะผิดหวัง เพราะเริ่มมีคนคิดว่าน่าจะลด 0.25% เพื่อช่วยเหลือกัน
แนวรับ 617 และ 600 จุด แนวต้าน 630 และ 635 จุด
"ตลาดยังผันผวนจากต่างชาติเป็นหลัก การเมืองก็ยังอึมครึมเพียงแต่ไม่ได้รุนแรงก้าวร้าวเหมือนในช่วงที่ผ่านมา ถ้ามีแต่เรื่องการเมืองในประเทศก็มองตลาดซึมๆ มากกว่าแต่ถ้ามีปัจจัยต่างประเทศเข้ามาด้วยก็น่าจะปรับตัวลง"น.ส.จิตรา กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(16 ก.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,059.02 จุด เพิ่มขึ้น 141.51 จุด(+1.30%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,213.60 จุด เพิ่มขึ้น 20.90 จุด(+1.75%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,207.90 จุด เพิ่มขึ้น 27.99 จุด (+1.28%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,165.48 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 91.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 4.56 ดอลลาร์
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า เฟดได้ตัดสินใจปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) มูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ตรึงดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น 2% มุ่งคลายภาวะตึงตัวในตลาดการเงิน
- บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และ อินเดีย ไปจนถึงอังกฤษ และ อีซีบี พร้อมใจเดินหน้าอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงิน วันเดียวรวมกันกว่า 8.75 ล้านล้านบาท หลังจากข่าว เลแมน บราเดอร์ส ล้มละลาย ฉุดตลาดหุ้น-เงินดิ่งหนัก เผยบีโอเจอัดเงินวันเดียว 2 รอบ กว่า 2.5 ล้านล้านเยน ด้านตลาดหุ้นไทยรูด 17 จุด ตลาดตั้งกองทุน 500 ล้านบาท พยุง
- ผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค แถลงยืนยัน พร้อมสนับสนุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน(พปช.) และรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่เหมาะสมได้รับเลือกเป็น นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเห็นชอบ ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.)
- กลุ่ม 73 ส.ส.อีสาน กลับลำ หันหนุน "สมชาย" ขึ้นนายกฯ หลังจากสองฝ่ายเคลียร์เก้าอี้รัฐมนตรีลงตัว พร้อมโหวตวันนี้ ว่าที่นายกฯ ใหม่ ลั่นให้ทุกฝ่ายตรวจสอบเอื้อ "ทักษิณ" ยันพร้อมทำงานเพื่อบ้านเมือง แก้ปัญหาความขัดแย้ง เผยโผ ครม.ใหม่ "ประวิตร" โผล่จ่อนั่งกลาโหม เล็งเปลี่ยนตัวมท.1 ด้านเพื่อแผ่นดินป่วน สะพัด "สุวิทย์" ขอรีเทิร์นรองนายกฯ ควบอุตสาหกรรม ขณะที่ ปชป.เตือน "สมชาย" เป็นระเบิดเวลาป.ป.ช.กำลังสอบอยู่
- คลัง-คปภ. การันตี "เอไอเอ" ไม่ล้ม ชี้ฐานะการเงินแข็งแกร่งกว่าเอไอจี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ด้วยขนาดเงินกองทุน 1,100% สินทรัพย์ 3.8 แสนล้านบาท และกำไรสะสมกว่า 7 หมื่นล้าน คปภ.ยันไม่กระทบผู้ถือกรมธรรม์ 6 ล้านฉบับ ขณะที่ลูกค้าโทรเช็คข้อมูลวุ่นทั้งวัน ด้าน ธปท.เผยลูกค้าถอนเงินแบงก์เอไอจีเล็กน้อย ยอมรับยังไม่ถึงเวลาใช้แผนฉุกเฉินเข้าดูแล
- คลัง ระบุ ผลกระทบต่อสถาบันการเงินไทยหลังบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะล้มละลาย คงมีไม่มาก เนื่องจากไทยเข้าไปลงทุนกับเลห์แมนฯ ค่อนข้างน้อย แต่เป็นห่วงผลกระทบระยะสั้นที่สภาพคล่องในระบบมากกว่า เพราะอาจเข้าสู่ภาวะตึงตัวได้หลังจากมีเงินทุนไหลออกจำนวนมาก
- เอดีบี ห่วงการเมืองตึงเครียดลากยาวเกิน 1 ปี เงินเฟ้อยังสูงบวกเศรษฐกิจโลกชะลอตัวนาน ก่อความเสี่ยงเพิ่มฉุดจีดีพีไทยเหลือ 4.5% ปีหน้า แม้มั่นใจปีนี้ไทยทำได้ดีน่าจะโต 5% เหตุดุลบัญชีเดินสะพัดกับส่งออกยังดี
- เลห์แมน บราเดอร์ส เผยเงินลงทุนในไทยกว่า 5 หมื่นล้านบาท เฉพาะอสังหาริมทรัพย์ 4 หมื่นล้านบาท ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ในอสังหาฯ ให้เช่า-โรงแรม ร้อง ธปท.ออกมาตรการรับมือ หวั่นกระทบเป็นลูกโซ่ เหตุยังมี 2-3 บจ.ที่ต้องใช้เงินหนุนโครงการก่อสร้างอสังหาฯ ที่รอการขาย อาจหากลุ่มทุนมาซื้อยาก เนื่องจากยังมีสถาบันการเงินสหรัฐอีกหลายแห่งจ่อคิวล้มตาม
- ก.ล.ต.เตือนนลท.ตามข่าวเลห์แมนฯอย่างรอบคอบ เพราะระบบเศรษฐกิจของประเทศยังคงมั่นคงและอยู่ในทิศทางที่ดี
- สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) คาดผู้ค้าน้ำมันจะสามารถปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศลงได้อีกรอบในสัปดาห์นี้ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับต่อลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรคกูเลเตอร์) ระบุว่า ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) รอบใหม่ที่จะประกาศใช้ในเดือน ต.ค.51-ม.ค.52 มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 สตางค์/หน่วย เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้น
- ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า การส่งออกของไทยในภาพรวมจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากกรณีที่บริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิจธนกิจอันดับ 4 ของสหรัฐฯ ล้มละลาย
- สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงได้รับผลกระทบด้านจิตวิทยาจากเหตุการณ์ล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ ในระยะสั้น และเชื่อว่าดัชนี SET ไม่น่าจะหลุดระดับ 600 จุดแน่นอน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ