ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (17 ก.ย.) โดยดัชนีร่วงลงต่ำกว่าระดับ 5,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีพ.ศ.2548 เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกต่อข่าวที่ว่า ธนาคาร HBOS เจรจาขอควบรวมกิจการกับธนาคารลอยด์ ทีเอสบี หลังจากมูลค่าหุ้นของ HBOS ดิ่งลงอย่างหนักในปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ดิ่งลง 113.2 จุด ปิดที่ 4,912.4 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,903.3-5,124.4 จุด
แอนโทนี เกรช นักวิเคราะห์จาก IG Index ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนผันผวนอย่างหนักในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีข่าวการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส และข่าวที่เมอร์ริล ลินช์ ขายกิจการให้แบงค์ ออฟ อเมริกา โดยล่าสุดมีรายงานว่าธนาคาร HBOS เผชิญมรสุมทางการเงินจนต้องขอเจรจาควบกิจการกับธนาคารลอยด์ ทีเอสบี"
หุ้น HBOS ร่วงลง 19% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่ากำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับธนาคารลอยด์ ทีเอสบี ภายหลังจากราคาหุ้นของธนาคาร ดิ่งลงกว่า 80% ในปีนี้ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า HBOS อาจเป็นสถาบันการเงินรายต่อไปที่รัฐบาลอังกฤษจะเข้าแทรกแซงต่อจากธนาคารนอร์เธิร์นร็อค
หุ้นกลุ่มโลหะดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นแองโกล อเมริกันทรุดตัวลงตามราคาโลหะทองแดงในตลาดโลก เนื่องจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอาจทำให้ความต้องการโลหะลดลงด้วย ทั้งนี้ หุ้นแองโกล อเมริกันดิ่งลง 9.3% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 6.3% และหุ้นเอ็กสตราต้าร่วงลง 8.2%
สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของอังกฤษในเดือนส.ค. 2551 ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 16 ปีนับตั้งแต่ปี 2535 หลังจากที่บริษัท ธนาคาร ไปจนถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อโครงการที่อยู่อาศัยได้ลดการจ้างงานลง โดยยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 32,500 ราย แตะ 904,900 ราย และอัตราว่างงานเพิ่มขึ้น 2.8% จากระดับเดิมที่ 2.7%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--