ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดเช้าร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอาจมีสถาบันการเงินในสหรัฐล้มละลายอีกหลายระลอก หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย และเมอร์ริล ลินช์ ขายกิจการให้แบงค์ ออฟ อเมริกา จนกระทั่งล่าสุดมีรายงานว่ามอร์แกน สแตนลีย์ กำลังเจรจาขายกิจการให้กับซิติคกรุ๊ปของจีน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดเช้าร่วงลง 374.22 จุด หรือ 3.18% แตะที่ 11,375.57 จุด
โบรกเกอร์กล่าวว่า นักลงทุนมีปฏิกริยาในด้านลบต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจพยุงกิจการ AIG ด้วยการปล่อยวงเงินกู้ฉุกเฉิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้กับ AIG บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ แลกเปลี่ยนกับการที่เฟดเข้าไปถือหุ้น 79.9% ใน AIG ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนอย่างมาก เพราะการที่เฟดให้วงเงินกู้ฉุกเฉินแก่ AIG ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทประกันรายใหญ่แห่งนี้ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง และอาจล้มละลายต่อจากเลห์แมน บราเธอร์ส
นอกจากนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 449.36 จุด หรือ 4.06% ปิดที่ 10,609.66 จุดเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีพ.ศ.2548
ในช่วงเช้านี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า มอร์แกน สแตนลีย์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐกลายเป็นเหยื่อวิกฤติสินเชื่อรายล่าสุด โดยขณะนี้ทางบริษัทกำลังวิ่งรอกเจรจากับซิติค กรุ๊ปของจีน รวมถึงเอชเอสบีซี โฮลดิ้ง พีแอลซี โดยมีแนวโน้มว่าจะขายกิจการให้สถาบันการเงินเหล่านี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--