นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงอย่างหนักในวันนี้ไปถึง 5% แล้วนั้น มาจากปัจจัยหลักเรื่องเดียวคือความกังวลต่อสถานการณ์วิกฤติสถาบันการเงินของสหรัฐที่อาจลุกลามออกไปอีก ซึ่งกดดันดัชนีตลาดหุ้นทั่วทั้งภูมิภาคร่วงลงหนักในช่วงเช้าวันนี้
"วันนี้เป็นวันที่การลงทุนในตลาดหุ้นได้รับ effect จากวิกฤตการในสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก แต่จากการติดตามดูเมื่อเทียบกับภูมิภาคตลาดหุ้นอื่นก็ตกเช่นกัน" นางภัทรียา ระบุ
จากการรายงานของบริษัทจดทะเบียน พบว่าความเกี่ยวข้องกับเลห์แมน บราเธอร์ส มีไม่มากนัก โดยเป็นส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการเงิน ซึ่งเท่าที่รายงานเข้ามาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มีบ้างแต่เท่าที่ดูแล้วมีน้อย ไม่น่าจะกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานหรือฐานะของกิจการ
ขณะที่กองทุนรวมเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ(FIF)ของไทยมีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเลห์แมนฯ ในหลักแค่ 100 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจากการประเมินแล้วเชื่อว่าไม่ได้มีผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นนัยสำคัญ
นางภัทรียา กล่าวว่า ในการประชุมร่วมกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ที่มีกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าร่วมด้วยนั้น ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะมีการพิจารณาแนวทางการรับมือปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินของสหรัฐร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เชื่อว่าจะมีการเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน
อย่างไรก็ตาม แนวทางหนึ่งที่น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ก็คือช่วงนี้นับเป็นจังหวะที่ดีของการเข้าไปลงทุนของกองทุนแมทชิ่งฟันด์ ที่ได้จัดขึ้นมาในช่วงนี้ โดยมูลค่าสินทรัพย์ที่พร้อมลงทุนมีกว่า 8.2 พันล้านบาท เป็นโอกาสที่ดีที่กองทุนจะเข้าไปลงทุนได้ในช่วงนี้ที่หุ้นไทยราคาปรับลดลงมาก
นอกจากนั้น จากการจัดงานไทยแลนด์ โฟกัส ทางนักลงทุนต่างประเทศและกองทุนต่างๆ ยังมีความมั่นใจในพื้นฐานเศรษฐกิจไทย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ต่อข้อถามว่า สาเหตุที่หุ้นหลุด 600 จุดจะมาจากข่าวที่นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังปฎิเสธรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วยหรือไม่นั้น นางภัทรียา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่มีความชัดเจน คงต้องรอความชัดเจนก่อน แต่ปัจจัยหลักๆ มาจากกรณีปัญหาในสหรัฐมากกว่า
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--