นายชนะชัย ชุติมาวรพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) คาดว่า รายได้รวมของบริษัทในปี 52 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีนี้ที่คาดว่าราไยด้จะแตะ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในปีหน้าโรงงานน้ำตาลในกัมพูชาและลาวจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ประมาณ 30% ของกำลังผลิตทั้งหมด
ทั้งนี้ บริษัทได้สัมปทานพื้นที่ปลูกอ้อยในกัมพูชา 1.25 แสนไร่ และตั้งโรงงานน้ำตาลกำลังการผลิต 1 แสนตัน/ปี ส่วนที่ลาว ได้พื้นที่สัมปทาน 6 หมื่นไร่ คาดว่าจะมีกำลังผลิตน้ำตาล 5 หมื่นตัน/ปี โดยโรงงานทั้งสองแห่งจะเดินเครื่องผลิตประมาณ 80-90% ของกำลังผลิตในปี 53
บริษัทมีเป้าหมายจะใช้เงินลงทุนราว 3 พันล้านบาทในปีนี้เพื่อก่อสร้างโรงงานที่กัมพูชาและลาว โดยเป็นการกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ 2 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) จากนั้นในปี 52 บริษัทจะใช้งบลงทุนประมาณ 4 พันล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตเอทานอลอีก 1.5 แสนลิตร ตั้งโรงไฟฟ้าขนาด 20 เมกะวัตต์ และย้ายโรงงานน้ำตาล 1 แห่งจาก จ.กาญจนบุรี
นายชนะชัย กล่าวว่า บริษัทจะออกหุ้นกู้ประมาณ 2 พันล้านบาทในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อรองรับการลงทุนปีหน้า โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุ 3 ปีและ 5 ปี ส่วนที่เหลือจะกู้จากสถาบันการเงิน โดยจะเผื่อถึงการลงทุนถึงปี 53 ที่เบื้องต้นกำหนดวงเงินไว้ประมาณ 1.5 พันล้านบาท
"ในปี 53 จะเป็นปีที่บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังการลงทุนตามแผนแล้วเสร็จ" นายชนะชัย กล่าว
นายชนะชัย คาดว่า รายได้ในปี 51 จะสูงกว่า 1 หมื่นล้านบาทจากปีก่อนีที่มีรายได้ 9.1 พันล้านบาท หลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาน้ำตาลอีก 5 บาท/กก. ขณะที่มีอัตรากำไรสุทธิที่ 8.5% ประกอบกับ ราคาขายน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาขายเอทาอนลก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย จากต้นปีที่ 450 เหรียญ/ 1 พันลิตร ขณะนี้สูงถึง 600 เหรียญ/ 1 พันลิตร
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปีหน้า บริษัทประมาณการว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากในปีนี้ เนื่องจากประเทศผู้ผลิตขนาดใหญ่ อย่างบราซิลและอินเดียจะมีผลผลิตลดลง ประกอบกับ จะมีการนำผลผลิตไปผลิตเอทานอลมากขึ้นเพราะได้ราคาสูงกว่า
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--