นางสาวถนอมศรี ฟองอรุณรุ่ง นักเศรษฐศาสตร์ บล.ภัทร (PHATRA) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปี 52 ที่อาจมีการปรับลดลงจากเดิมที่คาดไว้ 4.7% เนื่องจากมองว่าสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐ น่าจะส่งผลถึงเศรษฐกิจไทยในปีหน้า
ส่วนในปีนี้คาดว่า GDP ยังจะเติบโตได้ในระดับใกล้เคียง 5% โดยได้แรงหนุนจากภาคการส่งออกที่คาดว่าจะออกมาดี มีการขยายตัวประมาณ 18-19% ซึ่งผ่านมาแล้ว 8 เดือนจะเห็นได้ว่าการส่งออกของไทยมีการขยายตัวที่ดี ดังนั้น แม้ปัจจุบันประเทศไทยจะมีแรงกดดันจากปัญหาทางการเมือง แต่มองว่า Downside ปีนี้ยังมีไม่มากเมื่อเทียบกับปีหน้า
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ PHATRA กล่าวว่า ผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯคงจะไม่ได้เกิดกับการลงทุนโดยตรง(direct Investment)ในประเทศไทย แต่จะเป็นทางอ้อม ที่เห็นได้ชัด ๆ มี 2 ด้านด้วยกัน คือ ด้านการส่งออก(Export)ซึ่งมองว่าจะได้รับผลกระทบ โดยคาดว่าการส่งออกในปี 52 คงจะชะลอตัวลงจากปีนี้
และผลกระทบอีกด้านหนึ่งคือสภาพคล่องทางการเงิน(Liquidity)ซึ่งประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แต่ Liquidity ในไทยอาจลดลงอันเนื่องมาจากต่างชาติมีการดึงเงินลงทุนกลับออกไป
ส่วนความเคลื่อนไหวของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทาง PHATRA ใช้ข้อมูลอ้างอิงมาจากเมอร์ริลลินซ์ที่ได้คาดการณ์ไว้ว่าปี 51 เงินบาทไทยจะเฉลี่ยอยู่ที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ ส่วนปีหน้า 52 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 บาท/ดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--