ตลาดหุ้นยุโรป-สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐทะยานหลังธนาคารกลางทั่วโลกอัดฉีดเงินเข้าระบบ

          ตลาดหุ้นยุโรปและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น หลังธนาคารกลางยุโรป, ธนาคารกลางสหรัฐ และธนาคารกลางญี่ปุ่น อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อลดความตึงเครียดจากวิกฤตการเงิน ส่วนหุ้นเอเชียยังร่วงลงแต่น้อยกว่าเดิม
          หุ้นเอชบีโอเอส พีแอลซี ทะยาน 27% หลังลอยด์ส ทีเอสบี กรุ๊ป พีแอลซี ตัดสินใจเข้าเทคโอเวอร์เอชบีโอเอสด้วยมูลค่า 1.22 หมื่นล้านปอนด์ (2.22 หมื่นล้านดอลลาร์) ในขณะที่หุ้นยูบีเอส เอจี ธนาคารรายใหญ่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ก็ปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 8.48 น.ตามเวลาท้องถิ่นลอนดอน ดัชนี Dow Jones Stoxx 600 ของยุโรปปรับตัวสูงขึ้น 0.4% สู่ระดับ 258.98 จุด ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของดัชนี Standard & Poor's 500 บวก 1.3% ในขณะที่ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 2.2% 
          ตลาดหุ้นทั่วโลกสูญเสียเงินมูลค่ากว่า 19 ล้านล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.ปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐที่ทรุดหนักสุดนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลก (Great Depression) และสภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาอันเนื่องมาจากวิกฤตสินเชื่อ ส่งผลให้เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิงส์ ล้มละลาย และทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องเข้าเทคโอเวอร์บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี)
          "เราเริ่มเห็นเหยื่อจากวิกฤตทางการเงินแล้ว" ไมค์ เลนฮอฟฟ์ หัวหน้านักยุทธศาสตร์จากบริษัท เบรวิน ดอลฟิน ซีเคียวริตี้ส์ ในลอนดอน กล่าว "เรากำลังอยู่ในจุดที่แย่ที่สุด และหวังว่ามันจะสิ้นสุดแค่นี้จริงๆ"
          ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษเตรียมเสนอเงินกู้ประเภทระยะสั้นมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับสถาบันการเงินต่างๆ โดยจะมีการปล่อยเงินกู้งวดแรกในวันนี้ ส่วนงวดที่เหลือจะมีการพิจารณาต่อไปตามสมควร          
          หุ้นเอชบีโอเอส ทะยาน 27% แตะ 187.3 เพนซ์ หลังลอยด์ส ทีเอสบี ตัดสินใจซื้อเทคโอเวอร์เอชบีโอเอสด้วยมูลค่า 232 เพนซ์ต่อหุ้น ส่วนหุ้นลอยด์ส ร่วง 8.1% แตะ 257 เพนซ์