ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 32.4 จุด หลังนักลงทุนเมินข่าวลอยด์ทีเอสบีซื้อกิจการ HBOS

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) แม้มีรายงานว่าธนาคารกลางอังกฤษร่วมมือกับธนาคารกลางของประเทศอื่นๆใช้มาตรการเสริมสภาพคล่องในตลาด และธนาคารลอยด์ส ทีเอสบีทำข้อตกลงซื้อธนาคาร  HBOS 
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 32.4 จุด แตะที่ 4,880 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,860.7-5,015.9 จุด
          แอนโทนี เกรช นักวิเคราะห์จาก IG Index ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นเวลาหลายวัน นับตั้งแต่มีข่าวการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส จนกระทั่งล่าสุดมีข่าวว่ามอร์แกน สแตนลีย์ เจรจาขายกิจการให้กับกลุ่มซิติคของจีนและวาโชเวีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่ขานรับข่าวที่ธนาคารกลางทั่วโลกร่วมมือใช้มาตรการกระตุ้นสภาพคล่อง และข่าวที่ธนาคารลอยด์ท ทีเอสบี ทำข้อตกลงซื้อกิจการธนาคาร HBOS"
          ธนาคารลอยด์ส ทีเอสบี ได้ตกลงซื้อกิจการธนาคาร HBOS ผู้ปล่อยกู้จำนองรายใหญ่สุดของอังกฤษ เป็นมูลค่า 1.22 หมื่นล้านปอนด์ (2.2 พันล้านดอลลาร์) แล้ว พร้อมเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ธนาคารลดต้นทุนได้ถึงปีละ 1 พันล้านปอนด์ และช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ธนาคารได้เป็น 1 ใน 3
          การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ถือเป็นการพยุง HBOS ไม่ให้ล้มละลาย หลังจากที่ราคาหุ้น HBOS ดิ่งลงต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของ HBOS โดยรัฐบาลอังกฤษได้ตัดสินใจที่จะผลักดันการเจรจานี้ให้บรรลุผลสำเร็จ หลังจากที่ HBOS เผยว่าผู้ฝากและผู้กู้ได้เริ่มถอนสินเชื่อจากธนาคารเพิ่มมากขึ้น ซึ่งความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของ HBOS เป็นเรื่องใหญ่มาก ถึงขนาดที่นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ก็ออกโรงสนับสนุน เนื่องจากเกรงว่าสถานการณ์ของ HBOS อาจนำไปสู่วิกฤติการเงินในอนาคต หรืออาจจะมีจุดจบเหมือนกับธนาคารนอร์ธเทิร์นร็อคที่ประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนสำหรับรองรับการปล่อยกู้ จนกระทั่งรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือด้วยการซื้อกิจการไปเมื่อปีที่แล้ว
          เซอร์ วิคเตอร์ แบลงค์ ประธานกรรมการของลอยด์ส ทีเอสบี กล่าวว่า การทำข้อตกลงซื้อกิจการในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะช่วยเร่งและขยายกลยุทธ์ของธนาคาร อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ของลอยด์สในการสร้างกลุ่มผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของสหราชอาณาจักร       
          ทั้งนี้ หุ้น HBOS พุ่งขึ้น 17% ในขณะที่หุ้นลอยด์สดิ่งลง 18% ส่วนหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 4.5% หุ้นสแตนดาร์ด  ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 1.9% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สดิ่งลง 5.3%