จีนเล็งยกเลิกภาษีซื้อขายหุ้น หวังกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนคืนสู่ตลาด

          จีนเตรียมใช้มาตรการยกเลิกการจัดเก็บภาษีซื้อขายหุ้นของธนาคารรายใหญ่ที่สุดของรัฐ 3 แห่ง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นจีนมากขึ้นในปีนี้
          สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวานนี้ว่า ไชน่า อินเวสเม้นท์ คอร์ป กองทุนเพื่อความมั่นคั่งของรัฐบาลที่มีสินทรัพย์ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจะเข้าซื้อหุ้นของอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล ไชน่า จำกัด, แบงก์ ออฟ ไชน่า และ ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์ คอร์ป โดยรัฐบาลจะยกเลิกภาษีการทำธุรกรรมซื้อหุ้นที่กำหนดไว้ในระดับ 0.1% โดยจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
          ดัชนี Bank of New York Mellon China ADR พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 12% นำตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวพุ่งขึ้นในวันนี้ ขณะที่ดัชนี CSI 300 ดิ่งลง 65% ในปีนี้ เนื่องจากภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นได้กดดันให้เศรษฐกิจชะลอตัวและส่งผลต่อตัวเลขผลประกอบการ 
          "ตลาดหุ้นเหวี่ยงตัวลงไปแรงมาก" แฟรงก์ กอง นักวิเคระห์จากเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ในฮ่องกงกล่าว "รัฐบาลจะต้องใช้มาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น เช่นการใช้นโยบายกระตุ้นด้านการเงินและใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรน"
          สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มาตรการยกเลิกภาษีครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี และลดสัดส่วนกันสำรองให้ธนาคารพาณิชย์เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา
          อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาตลาดหุ้นที่ตกต่ำลงในปีนี้ได้ หลังจากที่ได้ปรับลดอากรแสตมป์จากระดับ 0.3% เมื่อวันที่ 23 เม.ย. และเพิ่มความเข้มงวดในการขายหุ้นมากขึ้น