(เพิ่มเติม) SGP คงเป้ารายได้ปี 51 ที่ 2 หมื่นลบ. จาก1.5 หมื่นลบ.ในปี 50

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 19, 2008 12:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ (SGP) เชื่อว่ารายได้ในปีนี้คงจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เพราะในครึ่งปีแรกสามารถทำรายได้ได้แล้วกว่า 9 พันล้านบาท ดังนั้นครึ่งปีที่เหลือไม่ได้เป็นเรื่องยากเพราะความต้องการยังมีอยู่สูงไม่ว่าจะเป็นก๊าซหุงต้มหรือก๊าซรถยนต์  ขณะที่กำไรขั้นต้นในปีนี้คงจะอยู่ที่ 10% ใกล้เคียงกับปีก่อน 
ด้านปริมาณการขาย LPG ในปีนี้จะอยู่ที่ 12 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่ปริมาณการขายอยู่ที่ 9 แสนตัน
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมองการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยในประเทศอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจเอทานอลซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเป็นการลงทุนเองหรือการเทคโอเวอร์ ตอนนี้บริษัทได้มีการเข้าไปคุยกับบริษัทที่จะเข้าไปเทคฯ 2-3 รายซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้และเห็นการลงทุนด้วย ส่วนเม็ดเงินในการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท
สาเหตุที่มองการทำธุรกิจเอทานอลในเมืองไทยเพราะประเทศไทยมีศักยภาพในด้านวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นอ้อย และมันสำปะหลัง
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศคาดว่าจะได้ข้อสรุปถึงธุรกิจก๊าซหุงต้มในปลายปีนี้เช่นกันขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาธุรกิจถ่านหินที่ประเทศอินโดนีเซียด้วยและยังมองก๊าซธรรมชาติแบบเหลว(LNG) ที่จะมาขายในอุตสาหกรรมต่างๆซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัทในอนาคต
ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศคงจะมีรายได้เข้ามาให้เห็นไม่ต่ำกว่า 10% ในปีหน้า แต่ปีนี้อาจจะเห็นน้อย
"การที่เศรษฐกิจสหรัฐเป็นเช่นนี้เราไม่ได้รับผลกระทบ เพราะสิ่งที่เราผลิตเป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้"นายศุภชัย กล่าว
สำหรับการพรีเซนต์ข้อมูลให้กับนักลงทุนในงานไทยแลนด์โฟกัสก็ได้รับการตอบรับที่ดีซึ่งกองทุนส่วนใหญ่ก็ได้มีการสอบถามถึงภาพของ LPG ในอนาคตจะเป็นอย่างไรและบริษัทจะดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร แต่ก็ยอมรับว่าอยากให้นักลงทุนต่างชาติหรือกองทุนเข้ามาถือหุ้นในบริษัทมากขึ้นเพราะอยากให้เป็นหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนจากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนในประเทศ
"ราคาหุ้นที่ต่ำกว่าจองเป็นเรื่องปกติภายใต้ภาวะตลาดที่เป็นเช่นนี้ แต่เราจะพยายามทำกำไรให้มากที่สุดเพื่อสามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นจุดดีต่อนักลงทุนต่อผู้ถือหุ้นภายใต้ภาวะตลาดแบบนี้" นายศุภชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ