ตลาดหุ้นทั่วโลกทะยานขึ้นแข็งแกร่งในวันนี้ ขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐประกาศแผนจัดตั้งหน่วยงานที่จะเข้าไปจัดการดูแลหนี้เสียของสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งวิกฤตการณ์ในตลาด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลอังกฤษและสหรัฐดำเนินการกวาดล้างนักลงทุนที่ทำช็อตเซลล์อย่างไม่ชอบมาพากล
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า นายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐกำลังพิจารณาจัดตั้งหน่วยงานที่คล้ายคลึงกับ 'บรรษัททรัสต์เพื่อการกอบกู้กิจการ' เพื่อจัดการกับหนี้เสียและยับยั้งตลาดไม่ให้ตกอยู่ในภาวะล่มสลายหลังจากวาณิชธนกิจรายใหญ่ล้มละลาย ซึ่งรวมถึง แบร์ สเติร์นส และเลห์แมน บราเธอร์ส ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ด้วย
แมค บัคแลนด์ นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่า "นักลงทุนขานรับข่าวที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกระดมกำลังแก้ไขวิกฤตการณ์ในตลาดการเงิน รวมทั้งข่าวที่ก.ล.ต.สหรัฐใช้กฏข้อบังคับที่เข้มงวดกับกลุ่มนักลงทุนที่ทำช็อตเซลล์อย่างไม่เหมาะสม"
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ร่วมมือกับธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ธนาคารกลางสวิส และธนาคารกลางแคนาดา โดยร่วมประกาศลงนามในข้อตกลงพื่อลดภาวะสภาพคล่องตึงตัว ซึ่งครอบคลุมถึงการขยายวงเงินสว็อปเป็น 1.80 แสนล้านดอลลาร์ และการระดมเงินทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์เพื่อเสริมสภาพคล่องในตลาด
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สหรัฐออกกฎข้อบังคับให้กลุ่มเฮดจ์ฟันด์เปิดเผยสถานะการทำช็อต-เซล เพื่อลดภาวะผันผวนในตลาดหุ้น โดยค็อกซ์ระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้มีขึ้นหลังจากราคาหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ดิ่งลงกว่า 39% ในสัปดาห์นี้ โดยนายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธาน ก.ล.ต.เตรียมจัดประชุมฉุกเฉินคืนนี้ เพื่อพิจารณาการใช้กฎข้อบังคับที่จะรับประกันสภาพคล่องในตลาด
"เราอาจจะใช้มาตรการเพิ่มเติมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะแก้ไขสถานการณ์ในปัจจุบัน เรากำลังทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าตลาดของเรามีสภาพคล่องเพียงพอและเคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้ตลาดทำงานตามกลไกที่เหมะสม และเพื่อให้นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในตลาด" ค็อกซ์กล่าว
การดำเนินการของก.ล.ต.มีขึ้น หลังจากตลาดการเงินตกอยู่ในภาวะผันผวนเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิงส์ ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลาย และหลังจากเฟดตัดสินใจให้วงเงินกู้ฉุกเฉิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์แก่บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG)
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่ง 431.56 จุด หรือ 3.76% แตะที่ 11,920.86 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดพุ่ง 179.25 จุด หรือ 9.46% แตะ 2,075.09 จุด ซึ่งถือเป็นการดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 1 วัน นับตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 2544
ดัชนีดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดพุ่งขึ้น 4.55% แตะที่ระดับ 1,455.78 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดทะยานขึ้น 328.43 จุด หรือ 5.82% แตะที่ 5,970.38 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดพุ่ง 198.2 จุด หรือ 4.3% แตะ 4,805.5 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดพุ่ง 1,245.8 จุด หรือ 7.07% แตะ 18,878.26 จุดในวันนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--