บมจ.น้ำประปาไทย(TTW)คาดว่าภายในเดือน ก.ย.นี้จะได้ข้อสรุปการเจรจายืดระยะเวลาชำระหนี้ 6.5 พันล้านบาท จากเดิม 5 ปี เป็นไม่เกิน 10 ปี และอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงตามตลาดเงินขณะนี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่าย ส่วนการเจรจาขยายกำลังการผลิตกับการประปาฝ่ายภูมิภาค(กปภ.)จะได้ข้อยุติภายใน 1-2 เดือน
ขณะเดียวกันเตรียมระดมทุนจำนวน 1.3 -1.4 พันล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนส่วนต่อขยายโรงงานผลิตน้ำประปาอีก 1.0-1.2 แสนลบ.ม./วัน โดยอาจใช้ทางเลือกเสนอออกหุ้นกู้แทนการกู้ยืมเต็มจำนวน นอกจากนี้ในช่วงวันที่ 20 -26 ก.ย.ผู้บริหารเตรียมโรดโชว์กับนักลงทุนยุโรป เปิดตัวเป็นทางเลือกการลงทุน หลังเห็นแนวโน้มการลงทุนในกิจการสาธารณูปโภค และกิจการที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ TTW กล่าวว่า การเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ที่ปัจจุบันมีอยู่ 6.5 พันล้านบาทมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนนี้ ซึ่งจะมีการขยายระยะเวลาคืนหนี้ 5 ปี มาเป็นไม่เกิน 10 ปี รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยก็จะปรับลดลงไปจากปัจจุบันจ่ายที่อัตราดอกเบี้ย MLR-1%
ทั้งนี้ ธนาคารเจ้าหนี้ของบริษัทมี 3 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารทหารไทย(TMB)
ส่วนการเจรจาขยายกำลังการผลิตน้ำประปาเพิ่มอีก 1.0-1.2 แสนล้าน ลบ.ม./วันกับ กปภ.มีทีท่าจะจบได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งบริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนขยายกำลังการผลิตดังกล่าวจำนวน 1.3-1.4 พันล้านบาท โดยมีแนวทางระดมทุน 2-3 แนวทาง ได้แก่ กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเดิม หรือออกหุ้นกู้ทั้งจำนวน หรือออกหุ้นกู้ส่วนนึ่งและกู้จากสถาบันส่วนหนึ่ง
"เรื่องนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปหลังจากที่เราคุยกับแบงก์จบในเดือน ก.ย.และนำเสนอเข้าบอร์ดต้นเดือน ต.ค.ก็จะนำเสนอเรื่องแนวทางระดมทุน ซึ่งผมก็มองว่าเราได้เรตติ้งที่ดี คือ AA- ก็น่าจะออกบอนด์ อย่างน้อยการออกถึงจะไม่มาก ก็ให้เป็นที่รู้จักในตลาด ยังไงก็ขึ้นอยู่กับการเจรจากับแบงก์อาจจะให้เป็นแพ็กเกจก็ได้ ก็ดูอยู่อาจเป็นลูกผสมก็ได้"นายสมโพธิ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ หากเจรจาส่วนต่อขยายกับ กปภ.เสร็จ จะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ในปลายปี 51 โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 18 เดือน ก็คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถให้บริการได้ในกลางปี 53
ปัจจุบัน TTW มีกำลังการผลิต 3.2 แสนลบ.ม./วัน
*คาดรายได้-กำไรในH2/51 สูงกว่า H1/51
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 51 นายสมโพธิ กล่าวว่า รายได้รวมของบริษัทน่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 12% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3.2 พันล้านบาท โดยรายได้มาจาก TTW สัดส่วน 60% และ บริษัท น้ำประปาปทุมธานี จำกัด(PTW) ซึ่ง TTW ถือหุ้น 98% นั้น มีรายได้เป็นสัดส่วน 40% ของรายได้รวม
สอดคล้องกับปริมาณจ่ายน้ำของ TTW ปีนี้ที่เติบโต 12% โดยในครึ่งปีแรกปริมาณจ่ายน้ำโต 30% เฉลี่ยวันละปริมาณ 3 แสนลบ.ม./วัน และคาดว่าในครึ่งปีหลังปริมาณการจ่ายน้ำทรงตัว ที่ 3 แสนลบ.ม./วัน ส่วน PTW มีอัตราการเติบโตไม่มาก และในวันที่ 1 ส.ค.ได้จ่ายน้ำเพิ่ม 8 หมื่นลบ.ม./วัน เป็น 3.88 แสนลบ.ม./วัน
แต่ในครึ่งปีหลังบริษัทได้ปรับอัตราส่วนลดจากเดิมจะให้ส่วนลด 55% ตั้งแต่ปริมาณจ่ายน้ำ 2.5 แสนลบ.ม./วันขึ้นไป แต่หลังวันที่ 21 ก.ค.ที่ผานมาบริษัทได้ปรับการให้ส่วนลดตั้งปริมาณการจ่ายน้ำ 3 แสนลบ.ม./วัน โดยให้ส่วนลด 60% ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอีก 15-16 ล้านบาท/เดือน แม้ว่าปริมาณการจ่ายน้ำยังทรงตัวจากครึ่งปีแรก
ขณะเดียวกันภาระดอกเบี้ยจ่ายในครึ่งปีหลังลดลง 15-16 ล้านบาท/เดือน หลังจากที่บริษัทได้คืนหนี้ 3 พันล้านบาทแล้ว ทำให้คาดว่าแนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิในครึ่งปีหลังจะสูงกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 1,733 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 610.83 ล้านบาท
*คาดปี 52 ปริมาณขายน้ำเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10%
ส่วนในปี 52 คาดว่าปริมาณการใช้น้ำจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ประกอบกับ ราคาขายน้ำจะปรับเพิ่มขึ้นตามดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)หรืออัตราเงินเฟ้อ และแนวโน้มการเติบโตของรายได้เป็นไปตามสัดส่วนเดียวกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณใช้น้ำ
"รายได้เราขึ้นอยู่กับปริมาณขายน้ำ คูณกับค่าน้ำ ซึ่งเขาใช้ดัชนี CPI ของเดือนธ.ค. 51 หารกับ CPI ของเดือนธ.ค.50 และปีหน้าบริษัทจะเก็บรายได้เต็มปีในการขายน้ำ 3 แสนล้านคิว ที่ไม่ต้องให้ส่วนลด ส่วนน้ำประปาปทุม ปีหน้าก็ยังโต แต่คงไม่ถึง 2 digit เพราะส่วนใหญ่ผู้ใช้เป็นภาคครัวเรือน เท่ากับปีหน้า เราได้ 3 เด้ง" นายสมโพธิ กล่าว
ทั้งนี้ ปีหน้าสัดส่วนรายได้จาก TTW จะมากกว่า 60% และมีแนวโน้มจะสูงขึ้น
*สัปดาห์หน้าเดินสายโรดโชว์กับนักลงทุนยุโรป
กรรมการผู้จัดการ TTW กล่าวว่า บริษัทเตรียมจะเดินทางไปโรดโชว์ให้ข้อมูลกับกองทุนต่างประเทศย่านยุโรป ช่วงวันที่ 20-26 ก.ย.นี้ 5 เมือง ได้แก่ ลอนดอน อัมสเตอร์ดัม มิลาน แฟรงเฟิร์ต และ ปารีส เพื่อแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางกับกลุ่มผู้ลงทุนต่างประเทศ เพราะในช่วงที่บริษัทเปิดขายหุ้น IPO เมิ่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเสนอข้อมูลกับนักลงทนุในประเทศมากกว่า ทั้งนี้ บริษัทได้ร่วมเดินทางไปกับ บล.ธนชาต
"ตอนที่เราขายหุ้น IPO ยังไม่มีโอกาสเปิดตัวกับนักลงทุนต่างประเทศ เราเห็นว่า ตอนนี้มีการออกกองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ กองทุนหุ้นสาธารณูปโภค ซึ่งหุ้นเราก็เข้าข่ายกับกองทุนเหล่านี้" นายสมโพธิ กล่าว
นอกจากนี้ จุดเด่นของบริษัท เป็นทั้งหุ้น Defensive Stock และ Growth Stock ด้วย โดยในช่วงขายหุ้น IPO จำนวน 1 พันล้านหุ้น ได้มีกองทุนต่างประเทศเข้าซื้อ 550 ล้านหุ้น คิดเป็น 14% ของทุน กองทุนในประเทศ 300 ล้านหุ้น คิดเป็น 7.6% และนักลทุนรายย่อย 150 ล้านหุ้นคิดเป็น 3.75%
ทั้งนี้ ราคาหุ้น TTW ปิดเช้านี้ที่ 4.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท (+1.89%) และวานนี้ราคาลงไปต่ำสุดที่ 4.18 บาท ต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาดเมื่อ 22 พ.ค.ที่ 4.20 บาทเท่ากับราคาจองที่ 4.20 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--