นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียที่ขึ้นกันทั่วหน้าตามตลาดสหรัฐฯ โดยปัจจัยภายนอกประเทศยังหนุนในการตอบรับกับมาตรการที่ธนาคารกลางต่างระดมเงินอัดฉีดเข้าระบบ ซึ่งก็น่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นได้ด้วย
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแรงทำให้คาดว่าน่าจะเป็นผลบวกที่เข้าไปหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ขยับตัวขึ้นได้ ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงต้องรอครม.ต่อไป แต่ช่วงนี้ก็ไม่ได้มีปัจจัยลบอะไรเข้ามาใหม่
พร้อมให้แนวรับที่ 620 จุด แนวต้าน 630,640 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(19 ก.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,388.44 จุด เพิ่มขึ้น 368.75 จุด(+3.35%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,255.08 จุด เพิ่มขึ้น 48.57 จุด(+4.03%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,273.90 จุด เพิ่มขึ้น 74.80 จุด (+3.40%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,406.44 ล้านบาทเมื่อ 19 ก.ย.51
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 104.55 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 6.67 ดอลลาร์หรือ 6.81%
- รัฐบาลใหม่ชูมาตรการเร่งด่วนรับมือวิกฤติการเงินสหรัฐ เดินหน้าลงทุนโครงการขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟฟ้า-โครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4 พันคัน-มอเตอร์เวย์ สานต่อนโยบายประชานิยม อัดฉีดงบเอสเอ็มแอลปี 2552 ประธานบอร์ด รฟม. มั่นใจโครงการรถไฟฟ้าไม่สะดุด ผลักดันโครงการช่วงแรก 3 เส้นทาง ตั้งเป้าเปิด ประมูลส่วนต่อขยายสีน้ำเงิน-สีเขียว ภายในปีนี้
- สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เผยการจัดโผคณะรัฐมนตรีเสร็จแล้ว 90% โดยจะแต่งตั้งคนนอกให้มาช่วยงานในกระทรวงเศรษฐกิจ และได้ส่งรายชื่อบางส่วนให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ทุกอย่างต้องเสร็จเรียบร้อย และได้ประชุม ครม.แน่นอน
- ก.ล.ต.เกาะติดการลงทุนกองทุนเอฟไอเอฟ หลังจากวิกฤติการเงินสหรัฐปะทุ พบลงทุนในสินทรัพย์เลแมน แค่ 58 ล้านบาท เอไอจี 20 ล้าน ขณะที่ลงทุนโกลด์แมน แซคส์-มอร์แกนสแตนเลย์ รวม 68 ล้านบาท พร้อมสำรวจพอร์ตเอไอเอ ลงทุนตลาดหุ้นไทย 7.8 พันล้านบาท เน้นลงทุนหุ้นโรงไฟฟ้า-วัสดุก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด
- ก.ล.ต.เผย ออกเกณฑ์ทีซีอาร์แล้ว เตรียมนำเรื่องหนุนสถาบัน-นักลงทุน high net worth ลงทุนตราสารหนี้ความเสี่ยงสูง มาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม ด้าน "ประเวช" ชี้ แม้ภาวะตลาดทุนโลก เศรษฐกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงเดินหน้าปูพื้นฐานให้ทำธุรกรรมใหม่ๆ
- นักเศรษฐศาสตร์ แนะรัฐบาลใหม่ เร่งหาทางรับมือการเงินโลกปั่นป่วน เตือนปัญหาสภาพคล่องตึงตัวรุนแรง "สมคิด" จี้ "คลัง-ธปท." ร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ กระตุ้นแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยพร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ด้านผู้เชี่ยวชาญการเงิน ชี้แผนที่รัฐบาลสหรัฐ ทุ่มเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ซื้อหนี้เสีย น่าจะไม่เพียงพอ และอาจเกิดความเสี่ยงที่จะมีธนาคารล้มได้อีก
- "ศานิต ร่างน้อย" มั่นใจปี51 กรมสรรพากรเก็บภาษีทะลุเป้า 6 หมื่นล้านบาทแน่นอน รับอานิสงส์นำเข้า-ส่งออกขยายตัวดี ด้านกรมสรรพสามิตจี้รัฐบาลใหม่ยกเลิกมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันสูญรายได้กว่า 3 หมื่นล้านบาท ระบุคนใช้น้ำมันถูกกว่าต้นทุนจะไม่ใส่ใจกับการประหยัดในระยะยาว โดยเงินชดเชยกองทุนน้ำมันที่รัฐบาลอ้างใช้กับนโยบายพลังงานเท่านั้นหากเปลี่ยนเป็นภาษีจะสามารถพัฒนาประเทศได้ทุกด้าน
- "เศรษฐกิจโลก-การเมือง" ทุบราคาเหล็กเส้นไทยดิ่งลงต่อเนื่อง แค่เดือนเดียวลดฮวบ 25% จาก 40-41 เหลือ 29-30 บาท/กิโลกรัม บรรดาร้านยี่ปั๊วแห่ระบาย สต๊อกเหล็กยอมขายขาดทุน ขณะที่ดีเวลอปเปอร์ประเมินแนวโน้มราคาจะต่ำลงได้อีก โรงงานหยุดสั่งซื้อโปรเจ็กต์ที่อยู่อาศัยเลิกซื้อเหล็กตุน
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศที่เกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ความต้องการสินเชื่อลดลง เพราะขณะนี้ความต้องการสินเชื่อขยายตัวได้ด้วยปัจจัยดอกเบี้ย
- บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เคลื่อนไหวคึกคักซื้อตึกในพอร์ตเลห์แมน พร้อมดึงพันธมิตรไทย-เทศตั้งกองทุน อนันดาฯ ลั่นเอาแน่ จับตาแลนด์ฯ-ทีซีซีร่วมวง หวังต่อยอดธุรกิจโรงแรม อาคารสำนักงาน ขณะที่บิ๊กแกรนด์ แอสเสทฯ ในเครือเลห์แมนกัดฟันหาแหล่งเงินกู้ใหม่ลุยโครงการคอนโด-โรงแรมต่อ ที่ปรึกษาการลงทุนเลห์แมนเตือนวิกฤตครั้งนี้ยืดเยื้อกว่า "ต้มยำกุ้ง" โจนส์แลงฯ เผยแนวโน้มมูลค่าการซื้อขายอสังหาฯ ทั่วโลกรูดต่ำกว่า 50%
- "บางจาก" เตือนปี 52 ราคาน้ำมันพุ่งอีกระลอก ดีเซลไม่ต่ำกว่าลิตรละ 34 บาท ชี้สัปดาห์หน้าแนวโน้มขยับแน่ "คลัง" ยอมลดเป้าภาษีสรรพสามิต 3 หมื่นล้าน รับมาตรการ 6 เดือน ด้านตลาดมอเตอร์ไซค์ทรุดหนัก เจอน้ำท่วมฉุดยอดขายตกฮวบเดือนละหมื่นคัน
- นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีแผนเพิกถอนหุ้นออกจาก ตลท. 13 แห่ง รวมมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) 60,000-70,000 ล้านบาท ซึ่งมี 5 บริษัทที่จะต้องออกจากตลท. แน่นอน เพราะเป็นกลุ่มที่มีการควบรวมกิจการ ส่วนอีก 8 บริษัทยื่นขอออกโดยสมัครใจเพราะไม่จำเป็นต้องระดมทุน ตลท.อยู่ระหว่างเจรจา เพื่อขอให้ทบทวนใหม่ นอกจากนี้ ปี 52 จะจัดตั้งทีมงานเฉพาะดูแลเรื่องดังกล่าว เพื่อปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคให้มียืดหยุ่นมากขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--