ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียทะยานขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้อนุมัติแผนการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารเป็นเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่ออสเตรเลียและไต้หวันได้สั่งควบคุมการทำช็อตเซลหุ้น
ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดพุ่ง 541.29 จุด หรือ 2.80% แตะ 19,869.02 จุด ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดเช้าพุ่งขึ้น 236.04 จุด หรือ 1.98 % สู่ระดับ 12,156.90 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดบวก 1.32% แตะที่ระดับ 1,475.03 จุด
เมื่อเวลา 8.50 น.ตามเวลาในไทย ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนพุ่ง 194.42 จุด หรือ 9.37% แตะ 2,269.51 จุด
บลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น บวกขึ้น 3.7% หลังจากที่กระทรวงคลังสหรัฐได้วางแผนซื้อสินทรัพย์ของแบงค์ เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดเงินย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้ หุ้นแมคควอรี ทะยาน 15% หลังจากที่คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของออสเตรเลียสั่งห้ามกลุ่มนักเก็งกำไรเข้าซื้อและขายเพื่อดันราคา หุ้นแบงค์ ออฟ ไชน่า ก็เป็นแกนนำในการปรับตัวพุ่งขึ้นในกลุ่มหุ้นจีน หลังจากที่คณะกรรมการกำกับดูแลฯของจีนได้ใช้มาตรการหนุนบริษัทเอกชนซื้อหุ้นคืน
โทโมชิกะ คิตาโอกะ นักยุทธศาสตร์ของมิซูโฮ ซิเคียวริตีส กล่าวว่า การที่รัฐบาลสหรัฐได้เข้ามาแทรกแซงด้วยการซื้อสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ด้วยจังหวะความเร็วและปริมาณเท่ารั้รถือว่าเป็นปัจัจยบวกต่อตลาด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ดีดขึ้น 2.4% เมื่อเวลา 10.40 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว หลังจากที่ขยายตัวถึง 5.5% เมื่อวันที่ 19 ก.ย.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--