บมจ.ศิครินทร์(SKR)คาดรายได้รวมปี 51 เติบโต 10-20% จาก 1,068.98 ลบ.ในปี 50 ขณะที่กำไรสุทธิอาจะสูงกว่า 73.65 ลบ.หลังผ่านงวด 6 เดือนบริษัทมีกำไรสุทธิ 39.09 ลบ.สูงกว่างวด 6 เดือนแรกปี 50 ยิ่งหากบริษัทล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 700 ลบ.หมดลงในสิ้นปี้น่าจะทำให้ขยายงานได้คล่องตัวมากขึ้น แย้มบอร์ดอาจพิจารณาปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นเป็นการตอบแทนที่อดทนร่วมเผชิญปัญหาและอุปสรรคกันมายาวนาน
สำหรับแผนขยายงานเล็งใช้เงินไม่ต่ำกว่า 200 ลบ.ก่อสร้างอาคารผู้ป่วยหลังใหม่และเพิ่มจำนวนเตียงคนไข้เป็น 270 เตียง จาก 200 เตียงในปัจจุบัน รองรับลูกค้าชาวต่างชาติโดยเฉพาะ คาดเริ่มก่อสร้างราวต้นปี 54 และเปิดให้บริการประมาณปลายปี 54 หรือต้นปี 55 คาดจะทำให้จำนวนลูกค้าใช้บริการเพิ่มเป็น 5 แสนคน/ปี จาก 4.3 แสนคน/ปี ในปัจจุบัน
แหล่งข่าว บมจ.ศิครินทร์(SKR)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า รายได้รวมปี 51 น่าจะสามารถเติบโตได้ในระดับ 10-20% จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 1,068.98 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิก็คาดว่าจะสูงกว่าปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 73.65 ล้านบาท หลังจากงวดครึ่งปีแรกของปี 51 บริษัทมีกำไรสุทธิ 39.09 ล้านบาท เทียบกับงวดครึ่งปีแรกของปี 50 ที่มีกำไรสุทธิ 24.41 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะยังเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก
ประกอบกับ บริษัทคาดว่าภายหลังการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 714 ล้านบาทได้หมดตามเป้าหมายภายในปีนี้ จะทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้คล่องตัวขึ้น รวมทั้งคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังอาจจะมีข่าวดีเรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นด้วย
ก่อนหน้านี้ SKR แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติให้ลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัท โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้จากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็น 6.50 บาท เพื่อนำพส่วนเกินทุนจากการลดทุนและส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญไปล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด 714,820,865 บาท
"ฐานะการเงินเราดี กำไรติดต่อกันมาทุกปี ถ้าล้างขาดทุนสะสมหมดก็น่าจะเป็นคำตอบอยู่ในตัว สาเหตุที่เราไม่ลดทุนในช่วงก่อนหน้านี้เพราะต้องการให้สถานะการเงินดีสม่ำเสมอ และความเห็นส่วนตัวคาดว่ามีโอกาสที่สิ้นปีนี้อาจจะมีปันผลให้ผู้ถือหุ้น อาจจะเป็นปันผลระหว่างกาลด้วยซ้ำไป เพราะปกติต้องรอผลประกอบการทั้งปีเพื่อจ่ายปันผลปีหน้า แต่ผมคาดว่าคณะกรรมการคงจะเห็นใจผู้ถือหุ้น คงจะตอบแทนด้วยการจ่ายระหว่างกาลบ้าง ซึ่งกว่าขั้นตอนลดทุนจะเรียบร้อยก็อาจจะประมาณต้น ธ.ค.51 เพราะฉะนั้นอาจจะมีข่าวดีหลังจากนั้น"แหล่งข่าว กล่าว
SKR มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 70% ของกำไรสุทธิ
แหล่งข่าว กล่าวว่า สาเหตุที่ผลประกอบการของ SKR ดีต่อเนื่องทุกปี เนื่องจากเราเน้นการเติบโตของกลุ่มลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของผู้ที่มาใช้บริการทั้งหมด ที่เหลือเป็นลูกค้าทั่วไปและลูกค้าที่มีประกันสังคม
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นกับ AIA อยู่ในขณะนี้ ก็ไม่มีผลกระทบต่อบริษัท โดยปัจจุบันลูกค้าประกันชีวิตของ AIA ยังคงมาใช้บริการที่โรงพยาบาลศิครินทร์อย่างต่อเนื่องและถือเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มลูกค้าที่มีประกัน รองลงไปก็เป็นลูกค้าของบริษัทประกันอื่นๆ
*มีแผนลงทุนปี 54 ราว 200 ลบ.สร้างอาคารใหม่-ขยายเตียงเพิ่ม รองรับลูกค้า ตปท.
แหล่งข่าว กล่าวแผนการลงทุนในช่วง 2 ปีนับจากนี้ บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท สร้างอาคารก่อหลังใหม่ ซึ่งจะเป็นอาคารที่ 3 ความสูงไม่เกิน 7 ชั้น และเพิ่มจำนวนเตียงคนไข้เป็น 270 เตียงจาก 200 เตียงในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะแบ่งใช้พื้นที่ว่างของส่วนที่เป็นที่จอดรถก่อสร้างอาคารหลังใหม่ คาดว่าการออกแบบจะเสร็จปลายปี 51 แต่กว่าจะผ่านการขออนุญาตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และผ่านการขออนุญาตเรื่องสิ่งแวดล้อมก็คงจะเริ่มก่อสร้างได้ในราวต้นปี 54 และน่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ราวปลายปี 54 หรือต้นปี 55
ส่วนเงินทุนที่จะใช้ในการลงทุนครึ่งหนึ่งจะมาจากกระแสเงินสุดหมุนเวียนภายในกิจการ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งกำลังพิจารณากู้
"สร้างอาคารหลังใหม่ทีก็ต้องมีไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท จะใช้เงินตัวเองครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งยังดูอยู่ๆ แต่ถ้าไม่พลาดเป้าหมายเราจะไม่กู้แบงก์ จะค่อยๆทำไป"แหล่งข่าว กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีแผนร่วมมือกับโรงพยาบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายแห่งในการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เป้าหมายคือเพื่อรองรับลูกค้าชาวต่างประเทศที่ปัจจุบันยังมาใช้บริการที่โรงพยาบาลศิครินทร์ค่อนข้างน้อย
แหล่งข่าว คาดว่า ภายหลังมีอาคารแห่งใหม่แล้ว น่าจะทำให้จำนวนผู้ป่วยนอกมาใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 500,000 คน/ปี จากปัจจุบันที่มีผู้ป่วยนอกเข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 430,000 คน/ปี หรือเฉลี่ย 1,200 คน/วัน เนื่องจากปัจจุบันโรงพยาบาลศิครินทร์ได้รับความนิยมด้านกุมารแพทย์ และสูตินรี ส่วนที่กำลังจะขยายคือ ด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และ โรคที่เกี่ยวกับ ตา หู คอ จมูก คาดว่าไม่เกินต้นปี 52 น่าจะให้บริการได้อย่างเต็มที่
"เราไม่ได้เน้นการรักษาเฉพาะทาง แต่ที่คนไข้นิยมมาหาหมอที่นี่คือหมอเด็ก ซึ่งจริงๆมีแพทย์ประจำด้านนี้ 8 ท่าน แต่มีอยู่ท่านหนึ่งถ้ามาเข้าคิว 8 โมงครึ่ง อย่างเร็วคือเที่ยงกว่าจะได้ตรวจ แล้วก็มีหมอสูตินรีที่คนไข้ค่อนข้างเยอะ แต่ต่อไปเราจะขยายการบริการที่หลากหลายขึ้น"แหล่งข่าว กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--