นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชีและการเงิน บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท(PS) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทเตรียมแผนงานที่จะเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 1.5 พันล้านบาท กลางเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นหุ้นกู้ระยะยาวที่มีอายุ 3 ปี ซึ่งจะเสนอขายก่อน 1 พันล้านบาท และมีส่วนที่เป็นกรีนชูอีก 500 ล้านบาท
ส่วนวงเงินที่เหลือตามที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นไว้ 3 พันล้านบาทนั้น บริษัทจะพิจารณาสถานการณ์อีกครั้งว่าจะออกเป็นหุ้นกู้เพิ่มเติมอีก หรือออกเป็นตั๋วบี/อีแทน
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ที่ปรึกษาทางการเงินเสนอให้บริษัทเสือกแนวทางออกหุ้นกู้เพื่อระดมเงินในประเทศ หลังจากที่เกิดปัญหาทางการเมืองในประเทศและปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐที่ล่าสุดมีกรณีการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส แม้จะยอมรับว่ากังวลจากเดิมที่ลังเลระหว่างออกหุ้นกู้หรือตั๋วบีอี เนื่องจากมองว่าบริษัทไม่ได้ต้องการเงินมาก แต่ที่ออกเป็นหุ้นกู้เป็นระยะยาว 3 ปีก็ทำให้ไม่ต้องกังวลความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยก็ไม่ได้อยู่ในระดับสูง ซึ่งที่ปรึกษายืนยันว่าน่าจะเสนอขายได้
ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือน ต.ค.บริษัทจะมีสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบันก่อน โดยกำหนดสัดส่วนเสนอขาย 80%ให้กับนักลงทุนสถาบัน และที่เหลือ 20% จะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป
"ช่วงแรกเราคิดและดูอยู่ว่าจะเลือกอะไรดีระหว่างหู้นกู้กับตั๋วบี/อี ตอนนั้นก็คิดว่าออกตั๋วบี/อีก่อนดีไหมเพราะกังวลดอกเบี้ยหุ้นกู้เพราะหากอยู่ในระดับสูงก็จะไม่คุ้ม แต่พอเราคุยกับที่ปรึกษาทางการเงินบอกว่าออกได้ก็เลยเดินหน้า อีกอย่างเรามองว่าช่วงนี้คนอาจจะขายหุ้นออกมาก่อนจากปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วมาลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งก็สอดคล้องกับ(หุ้นกู้)เราพอดี"นายสมบรูณ์ กล่าว
นายสมบรูณ์ กล่าวต่อว่า เม็ดเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้นั้นบริษัทจะนำไปใช้ในการชำระหนี้เงินกู้บางส่วนจากวงเงินเงินกู้ 700-900 ล้านบาท จ่ายค่าที่ดินที่บริษัทซื้อมาเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเข้าซื้อที่ดินจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ไปบ้างแล้ว และยังอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย
ด้านผลประกอบการของ PS นั้น แม้ว่าภาวะการเมืองและเศรษฐกิจในปัจจุบันจะส่งผลทำให้ทำงานได้ยากขึ้น แต่ยังมั่นใจว่ารายได้และกำไรน่าจะโตตามเป้าหมาย โดยบริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาบริษัทที่ได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินโครงการเป็นลักษณะสร้างโครงการให้เสร็จเร็วขึ้น การออกแบรนด์ใหม่ ๆ ในตลาดต่างจังหวัดที่เข้าใกล้เมืองมากขึ้น ขณะที่ต้นทุน PS อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับรายอื่นทำให้บริษัทฯ สามารถตั้งราคาบ้านได้ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับโครงการอื่น ๆ ในทำเลใกล้เคียงกัน
ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.51 บริษัทเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการ มูลค่า 4.2 พันล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีการเปิดโครงการอีก 16 โครงการ มูลค่า 9 พันล้านบาท สำหรับโครงการที่เปิดไตรมาสนี้มียอดขาย(Presale)อยู่ประมาณ 2.8 พันล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--